in

เครื่องเป่าใบไม้ แบบใดเหมาะที่ช่วยให้การทำงานของคุณเร็วขึ้น

เครื่องเป่าใบไม้ ที่ใช้พลังงานจากแก๊สและแบตเตอรี่มีมากกว่าแบบที่เป็นไฟฟ้ามาก เราเลยจะมุ่งเน้นไปที่่เครื่องเป่าใบไม้ แบบไร้สาย ที่ยังคงทำงานคลายๆกับแบบไฟฟ้า คุณควรพิจารณาหลายสิ่งหลายอย่างก่อนตัดสินใจเลือกเครื่องเป่าใบไม้แบบใช้แก๊สและแบตเตอรี่

เราจะเริ่มต้นด้วยคำถามพื้นฐาน ที่ช่วยในการกำหนดกำลังที่แท้จริง ความเร็ว และกระแสลมที่ช่วยในการทำงาน เพียงเพราะผลิตภัณฑ์มีความเร็วสูงสุดหรือ CFM (Cubic foot per minute) แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณต้องการพลังงานทั้งหมดสำหรับ 1-8 เอเคอร์ของพื้นที่ มันจะสร้างความแตกต่างสำหรับผู้ที่ใช้ เครื่องเป่าใบไม้ แบบสะพายหลัง

เครื่องเป่าใบไม้ แบบแก๊ส หรือ แบตเตอรี่?

ปริมาณของเศษซากใบไม้ที่ต้องการเก็บ ทำความสะอาดนั้นเป็นตัวกำหนด พลังงานที่จำเป็นสำหรับ เครื่องเป่าใบไม้ หากคุณมีใบไม้แห้งและเศษเล็กเศษน้อยกระจายอยู่ทั่วไปบนคอนกรีต ก็จะใช้พลังงานน้อยกว่า แต่ถ้าคุณมีกองเศษซากที่ชื้นอย่างสม่ำเสมอ  แม้ว่าเทคโนโลยีแบตเตอรี่จะยังคงได้รับผลประโยชน์จากผลิตภัณฑ์น้ำมันในด้านสมรรถนะ โดยทั่วไป เครื่องยนต์แก๊สยังคงได้เปรียบอยู่ดี 

สำหรับผู้ที่ทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันในงานที่เกี่ยวกับการจัดสวน การใช้งานแบบเป้ยังไม่เหมาะสมเท่าไหร่  จากที่กล่าวมา ผู้ใช้เครื่องเป่าใบไม้แบบสะพายหลังส่วนใหญ่อาจไม่ต้องการพลังงานมากเท่ากับเครื่องเป่าใบไม้ที่มีประสิทธิผลสูงสุด แต่คุณยังสามารถทำงานได้มากขึ้นด้วย CFM ที่ใหญ่กว่าและความเร็วที่เพิ่มขึ้น

เครื่องเป่าใบไม้
ใช้งานง่ายเพียงแค่เสียบแบตเตอรี่

ข้อเปรียบเทียบ เครื่องเป่าใบไม้แบบสะพายหลังแบบใช้แก๊สสร้างพลังการเป่าสูงสุด (วัดเป็นนิวตันของแรง) สำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ พลังงานแบตเตอรี่ยังไม่สามารถแข่งขันได้ในระดับนี้  แต่ หากคุณไม่พบว่าตัวเองต้องแบกของหนักๆ หรืออยู่ในสภาพอากาศที่ไม่ค่อยมีความชื้นมากนัก เครื่องเป่าใบไม้ที่ใช้แบตเตอรี่อาจเป็นทางเลือกที่ดีในการประหยัดเงินในระยะยาว คุณยังต้องตระหนักถึงกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือจัดสวนที่ดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่เครื่องเป่าใบไม้ที่มีเสียงดังโดยเฉพาะ

เครื่องเป่าใลไม้
ระบบปกกันการสั่นสะเทือนจะช่วยลดความเมื่อล้าในการทำงานลงได้

เครื่องยนต์ที่ใช้แก๊สเหล่านั้นอาจอัดแน่นไปด้วยกำลังมากกว่า แต่พวกเขามาพร้อมกับศักยภาพที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่วนมากจะหนักกว่า เครื่องเป่าใบไม้ ที่ใช้แบตเตอรี่ เพราะแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเหล่านี้มีความหนาแน่นและมีน้ำหนักมากอยู่เช่นกัน ดังนั้นมันก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยและส่วนประกอปหลายๆอย่างของเครื่องด้วยเช่นกัน

วิธีการบำรุงรักษา เครื่องเป่าใบไม้ แบบแก๊ส VS แบตเตอรี่

วิธีการบำรุงรักษา เครื่องเป่าใบไม้ แบบแบบแก๊ส?

หากคุณใช้เครื่องมือที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มาระยะหนึ่งแล้ว คุณคงทราบถึงสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นในการทำให้เครื่องมือเหล่านี้ทำงานต่อไปได้ คุณเข้าใจด้วยว่าต้องเก็บถังน้ำมันไว้สำหรับ เติม คุณรู้เรื่องที่ต้องผสมอัตราส่วนของก๊าซและน้ำมันที่เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์ของคุณ โดยในช่วงหลังจากฤดูหนาวหรือช่วงที่เลิกใช้ จะกลายเป็นเรื่องปกติ ที่หัวเทียนสกปรกและการสร้างคาร์บูเรเตอร์ใหม่อาจใช้เวลาเพิ่มเติมจากเดิม แน่นอนว่าเครื่องมือที่ใช้แก๊สมันได้ให้ประสิทธิภาพที่ดีในการทำงาน แต่คุณก็ต้องจัดการกับปัญหาเหล่านี้เมื่อใช้งาน

เครื่องเป่าใบไม้
ต้องมีการคตรวจเช็คน้ำมันเครื่อง และเติมน้ำมัน/แก๊สก่อนการใช้งานเสมอ

วิธีการบำรุงรักษา เครื่องเป่าใบไม้ ที่ใช้แบตเตอรี่ล่ะ?

มันง่ายเพียงแค่ เราอย่าลืมชาร์จแบตเตอรี่ มันสะอาดกว่า และชิ้นส่วนบางส่วนก็ทำงานได้เหมือนเดิมหลังจากไม่ได้ใช้งานมาระยะหนึ่งแล้ว เครื่องเป่าใบไม้แบบแบตเตอรี่มันจะไม่ค่อยมีปัญหาเหมือนเครื่องเป่าใบไม้ที่ใช้แก๊สแต่ข้อเสียสำหรับเครื่องเป่าใบไม้แบบแบตเตอรี่ก็คือ ชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆนั้นหาค่อยข้างยาก โดยเฉพาะหากเป็นร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่าย คุณอาจจะต้องส่งเครื่องเข้าไปยังร้านค้าเพื่อที่ทำการส่งต่อไปยังศูนย์บริการที่แท้จริงอีกขั้น ทำให้ใช้เวลาค่อนข้างนานพอสมควร อีกประการก็คือเรื่องระยะเวลาในการรับประกัน 

การเปรียบเทียบ: CFM และ MPH ใน เครื่องเป่าใบไม้ ทั้ง 2 แบบ

หลายข้อที่เราได้กล่าวมาข้างต้นนั้น ก็คือส่วนย่อยที่ต้องพิจารณา โดยสิ่งสำคัญที่เราพิจารณานั้นก็คือ ตัวชี้วัด 2 ตัวคือ ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที (CFM) และไมล์ต่อชั่วโมง (MPH) นั่นหมายถึงปริมาณและความเร็วตามลำดับ เครื่อเป่าลมขนาดเล็กบางตัวแสดง MPH ตามที่วัดที่ปลายท่อ ในขณะที่เครื่อเป่าลมขนาดใหญ่บางตัวจะโฆษณา CFM แม้ว่าเราจะถือว่า CFM สำคัญกว่า แต่การมีตัวเลขที่สูงขึ้นในทั้งสองส่วนจะช่วยให้คุณทำงานได้เร็วขึ้น ทั้งหมดกล่าวได้ว่า CFM ที่สูงขึ้นจะเคลื่อนย้ายเศษขยะมากขึ้นในขณะที่ MPH ที่สูงขึ้นจะเคลื่อนย้ายเศษขยะที่เปียกและหนักกว่า พิจารณาเมตริกทั้งสองและเปรียบเทียบกับงานที่คุณจะทำ เรายังวัดนิวตัน ซึ่งเท่ากับแรงจริง(กำลัง) ของพัดลม ไม่ว่าเครื่องเป่าใบไม้จะเน้นที่ความเร็วหรือปริมาตร แรงของนิวตันก็เผยให้เห็นแรงเป่าที่แท้จริง

เครื่องเป่าใบไม้
แบบแบตเตอรี่มีน้ำหนักพอดี คล่องตัว เหมาะกับการใช้งาน
เครื่องเป่าใบไม้
แบบใช้แก๊ส หรือน้ำมันมีน้ำหนักมาก ไม่เหมาะกับการใช้งานในเวลานาน

ข้อควรพิจารณาอื่น ๆในการเลือก เครื่องเป่าใบไม้ ทั้ง2 แบบ

เครื่องเป่าใบไม้แบบแบตเตอรรี่นั้นไม่สามารถสร้างก้าวผ่านข้อจำกัดเรื่องของระยะเวลาในการใช้งานได้ เว้นแต่ว่าจะพกแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟไว้เป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุผลนี้ ส่วนใหญ่จึงมักจะยึดติดกับเครื่องเป่าใบไม้แบบที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงเป็นหลัก เมื่อเปรียบเทียบเครื่องเป่าใบไม้แก๊สกับเครื่องเป่าใบไม้ที่ใช้แบตเตอรี่ คุณแทบจะไม่เห็นหัวฉีดแบบเอียงในรุ่นก่อน รูปร่างของหัวฉีดส่งผลต่อความเร็ว (MPH) ดังนั้น สำหรับการใช้งานบางอย่าง คุณสามารถพิจารณาเปลี่ยนรูปร่างของปลายให้เหมาะสมกับงานได้ นอกจากนี้ อย่าลืมประเมินระยะเวลาโดยเฉลี่ยที่คุณจะใช้เครื่องเป่าใบไม้ ไม่เพียงแต่ต้องพิจารณาถึงความสะดวกสบายในการใช้งานเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณระบุได้ว่าเครื่องเป่าใบไม้แบบใช้แก๊สดีที่สุดหรือไม่ หรือคุณสามารถทำงานให้เสร็จด้วยการชาร์จแบตเตอรี่เพียงครั้งเดียวหรือน้อยกว่านั้น รุ่นใหม่หลายรุ่นทำงานต่อเนื่องเกิน 20-30 นาที

ระดับเสียงรบกวน (DBA) เครื่องเป่าใบไม้ ทั้ง 2 แบบ

หากพูดถึงเสียงในการทำงาน เครื่องเป่าใบไม้ แบบแบตเตอรี่จะมีเสียงที่เบากว่า แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เหตุผลในส่วนนี้ยังไม่ค่อยมีผลต่อการตัดสินใจซื้ออยู่ดี เพราะว่า ส่วนมากเครื่องเป่าใบไม้แบบแก๊สนั้นก็ยังคงได้รับความนิยมมากกว่าอยู่ดี แต่ก็ได้เกิดข้อบังคับขึ้นมาในบางพื้นที่ ที่สั่งห้ามใช้เครื่องเป่าใบไม้แบบแก๊สได้อย่างสมบูรณ์

เมื่อเปรียบเทียบเครื่องเป่าใบไม้แก๊สกับเครื่องเป่าใบไม้ที่ใช้แบตเตอรี่ ให้พิจารณาขอบเขตการทำงานอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดูที่ CFM และ MPH จากนั้นตัดสินใจว่าคุณต้องการเครื่องเป่าใบไม้ประเภทใด

เช็คราคา เครื่องเป่าใบไม้ ได้ที่นี่

What do you think?

Comments

Comments

Loading…

0

Written by Maneepraew

เครื่องเชื่อม

คุณรู้หรือไม่ การเชื่อมแบบ MMA MIG และ TIG ต่างกันอย่างไร

ปืนยิงตะปู

คุณจะเลือกอะไร ระหว่าง ปืนยิงตะปูแบบใช้ลม กับ ปืนยิงตะปูไร้สาย