ในการตัดไม้ในสมัยก่อนอาจจะใช้เป็นพวกขวาน มีดพร้าหรือเลื่อยมือแทนซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาที่นานและเสียเวลา และถ้ายิ่งการตัดที่มีขนาดใหญ่และอุปกรณ์พวกนี้ค่อนข้างทำงานได้ช้าและลำบาก เสียแรงมาก ดังนั้นในยุคปัจจุบันจึงมีเลื่อยยนต์ขึ้นมาซึ่งสามารถตัดไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็ว เลื่อยยนต์มีหลากหลายราคาตั้งแต่ราคาถูก ไปจนถึงราคาแพง แต่ในวันนี้เรามาดูเลื่อยยนต์ที่ได้ชื่อว่าเป็นเลื่อยยนต์ที่ได้รับความนิยมที่สุดในประเทศไทย ณ ตอนนี้เลยก็ว่ากันได้ นั่นคือ เลื่อยยนต์ STIHL MS180
อุปกรณ์ที่มากับ เลื่อยยนต์ STIHL MS180
เริ่มจากหน้าตาของกล่อง ตัวกล่องที่ให้มามีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก มาพร้อมกับหน้าตาเป็นสีขาวแล้วมีรูปของตัวเลื่อยสติลแล้วมีบอกรุ่น อย่างตัวนี้เป็น STIHL MS180 เปิดออกมาผ่านในกล่องจะมีอุปกรณ์ดังนี้ ประแจบล็อกสำหรับไขหัวเทียนหรือประกอบบาร์โซ่ ตามด้วยไขควงแบนด้ามสีส้มเล็กๆ ตัวนี้เอาไว้สำหรับปรับจูนตัวเลื่อยยนต์ ต่อมาเป็นตัวเลื่อยยนต์, บาร์โซ่ขนาด 11.5 นิ้ว, โซ่, ตัวครอบบาร์โซ่ และคู่มือ
จากที่แกะกล่องมาสัมผัสแรกหรือว่าที่เรามองเห็นได้เลยคือตัวของเลื่อยยนต์จะเป็นสีส้มที่ดูคุ้นตากันอยู่แล้วนะครับ มีขนาดตัวเครื่องขนาดเล็กกำลังดี น้ำหนักของตัวเครื่องอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 4 กิโลกรัม การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่สะดุดตาเลย คือสีประจำของ STIHL ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือเลื่อยยนต์ เครื่องเล็มพุ่ม หรือเครื่องตัดหญ้าอะไรต่างๆของเขา
ในเรื่องของการประกอบตัวเลื่อยยนต์ STIHL MS180 ตัวนี้สวยครับไม่มีที่ติเลย ด้ามจับมีขนาดเล็กและทางด้านตัวสวิทช์มีระบบความปลอดภัยคือตัว SAFETY SWITCH ถ้าหากไม่กดไปพร้อมกันก็จะไม่สามารถเร่งตัวเลื่อยยนต์ได้ ซึ่งจุดนี้เป็นมาตรฐานของอุปกรณ์ที่คุ้นชินกันอยู่แล้วอย่างเครื่องตัดหญ้า ถัดมาเปิดทำความสะอาดหัวเทียนหรือว่ากรองอากาศก็ทำได้ง่าย เพียงใช้ไขควงที่มันแถมมาให้ บิดหมุนปลดล็อคแล้วยกฝาออกได้เลยซึ่งค่อนข้างสะดวกและง่ายปลอดภัย ตัวคันชักสายสตาร์ทที่ทำมาได้ค่อนข้างดีจึงไม่ค่อยเจ็บมือเท่าไหร่ถือว่ากำลังดีครับตัวนี้ไม่มีอะไรพิเศษ เชือกสตาร์ท มีขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 3 มม. ส่วนด้านระบบเบรกก็มีมาให้เช่นกัน จะอยู่ด้านหน้าสุด ถ้าหากเราดันไปด้านหน้าคือการเบรคตัวโซ่ไม่ให้หมุนแต่ถ้าหากเราบีบเข้าหาตัวก็จะคือการปลดเบรคก็คือ ให้โซ่หมุนได้วิ่งได้ปกติ ในจุดนี้จะขอแนะนำกันนิดนึงว่าหากเราใช้งานอย่าลืมปลดเบรกนะครับ ถ้าหากลืมปลดแล้วเผลอไปฝืนเร่งตัวเครื่องยนต์อาจจะทำให้ตัวคัตหรือว่าตัวเสื้อคัตพวกนี้จะละลายและเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพงพอสมควร จุดนี้ต้องระวังกันนิดนึงอย่าลืมปลดเบรคกันก่อนเร่งเรื่อง และเลื่อยยนต์ STIHL MS180 เลื่อยยนต์ตัวนี้เป็นแบรนด์ของทางเยอรมัน แต่ยังคงใช้ฐานผลิตที่จีน ซึ่งถ้าเป็นของแท้เราจะเห็นเลขซีเรียลปั๊มอยู่ที่ตรงท่อไอเสีย
เลื่อยยนต์ STIHL MS180
คุณสมบัติ เลื่อยยนต์ STIHL MS180
มาดูทางด้านสเปคของตัวเลื่อยยนต์ STIHL MS180 กันบ้าง ตัวนี้มาพร้อมกับขนาดบาร์โซ่ 11.5 หรือ 12 นิ้วนั่นแหละ ตัวโซ่เป็นขนาด 3/8 ppm 3 กำลังเครื่องของเลื่อยยนต์ STIHL MS180 อยู่ที่ 0.8 แรงม้า ตัวแรงม้าเป็นขนาดตามกฎหมายแต่จริงๆแล้ว ตัวเลื่อยยนต์ STIHL MS180 ตอนนี้สามารถทำ HP ได้สูงถึง 2 แรงม้าเป็นเครื่อง 2 จังหวะกระบอกสูบขนาด 38 mm. ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 0.25 ลิตร และความจุถังน้ำมันหล่อลื่นเลื่อยโซ่ที่ 0.15 ลิตร จากสเปคที่ให้มาถือว่าเป็นขนาดที่เขานิยมใช้กันซึ่งแรงม้าสูงถึง 2 hp ถือว่าพอใช้แล้วสำหรับในการใช้ตัดไม้ทั่วไปนะครับและตัวนี้ยังสามารถใช้กับบาร์โซ่ขนาดยาวได้ถึง 22 นิ้ว ซึ่งถือว่ายาวมาก แต่ถ้าเราจะใช้บ้านนอกจาก 11.5 นิ้ว นี้เราต้องไปขึ้นทะเบียนตามกฎหมายอีกทีนึง แต่ถ้าตามขนาดเดิมเขาจะมีใบรับรองมาให้ถือว่าใช้งานได้ตามกฎหมาย
วิธีการประกอบ เลื่อยยนต์ STIHL MS180
วิธีการประกอบของเลื่อยยนต์ STIHL ตัวนี้เริ่มจากยิบตัวเครื่อง กันมาเลยครับจากนั้นเราจะคลายน็อตที่ยึดออยู่ 2 ตัว ทางด้านข้างโดยใช้ประแจบล็อกที่เขาแถมมาให้ขันออก หลังจากที่ออกมาแล้ว จะเช็คเบรคกันก่อน คือตัวสีดำที่อยู่ด้านหน้าตัวเครื่องสุด ถ้าไม่ได้ปลดเบรคบางทีจะทำให้ประกบตัวฝากลับเข้าไม่ได้ วิธีการปลดเบรคหรือล็อคเบรคง่ายๆ ถ้าดันไปด้านหน้าคือล็อคไม่ให้ตัวโซ่หมุนได้ถ้าบีบเข้าหาตัวคือปลดล็อคเบรคทำให้โซ่หมุนได้ปกติ
ในตอนนี้จะทำการปลดเบรคคือ บีบเข้าหาตัวก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าเบรคไม่ได้ล็อคอยู่ จากนั้นให้เราใช้ตัวบล็อกขันโดยใช้ทางด้านที่เป็นไขควงแบน หมุนตรงจุดตรงกลางระหว่างน็อต 2 ตัว ที่คลายออกในตอนแรก โดยหมุนทวนเข็มนาฬิกา จากนั้นให้นำบาร์มาใส่โดยให้รูด้านล่างของตัวบาร์เข้ากับตัวตั้งโซ่ จากนั้นให้นำโซ่มาใส่โดยหันคมหรือว่าฟันของตัวโซ่ไปด้านหน้าหรือสังเกตจากรูปที่ตัวด้านข้างเครื่องได้เลย หากเราใส่โซ่กับด้าน อาจจะทำให้เราตัดไม้ไม่เข้าและทำให้ตัวโซ่หลุดออกจากบาร์ได้เพราะฉะนั้นแนะนำว่าให้ดูสังเกตให้ดี จากนั้นให้ตั้งโซ่ให้ตึงพอดีแล้วนำฝาครอบใส่เข้าที่เดิมโดยการยึดน๊อตให้พอตึงอย่าเพิ่งขันแน่นจากนั้นให้เราตั้งโซ่อีกทีนึงโดยให้ตึงพอดี ไม่แน่ไม่หย่อนจนเกินไป จากนั้นให้ขันน๊อตให้แน่นๆ
ตัวเครื่องจะเป็นเครื่องยนต์จะใช้เป็นน้ำมันเบนซินหรือแก๊สโซฮอล์ 95 91 ได้ แต่ถ้าให้แนะนำแนะนำเป็นเบนซินหรือหาไม่ได้จริงๆเป็นแก๊ส 95 จะดีกว่าในระยะยาว ตัวกระปุกเติมน้ำมันจะมีเกจ์หรือว่าช่องให้เราดูปริมาณน้ำมันได้ทั้งสองกระปุกนะครับไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงหรือน้ำมันหล่อลื่นซึ่งจุดนี้เขาทำการออกแบบมาให้มองหรือเช็คปริมาณน้ำมันได้สะดวกโดยที่ไม่ต้องคอยเปิดฝาดูตลอด ส่วนทางด้านการผสมน้ำมันเป็นอัตราส่วน 25 ต่อ 1 คือ น้ำมันเชื้อเพลิง 25 และน้ำมัน 2T 1 ให้ทำการผสมใส่กระปุกด้านนอก ก่อน คอยเติมใส่ในตัวเลื่อยยนต์ รอยจุดเติมน้ำมันเชื้อเพลิงจะอยู่ทางด้านซ้ายของเครื่องส่วนทางด้านหน้าจะเป็นจุดเติมน้ำมันหล่อลื่นโดยเราจะใช้น้ำมัน 2T หรือว่า 4T ก็ได้ แต่ต้องเป็นน้ำมันที่สะอาดเท่านั้น หากเป็นน้ำมันเก่า แนะนำว่าให้ผ่านการต้มหรือทำการทำความสะอาดตัวน้ำมันให้เรียบร้อยก่อนเพราะฉะนั้นถ้าหากน้ำมันสกปรกหรือเป็นตะกอนอาจจะทำให้ตัวหล่อลื่นโซ่อุดตันได้
จากนั้นมาเริ่มสตาร์ทกันเลยครับก่อนสตาร์ทขอแนะนำตัวสวิทช์ของตัว เลื่อยยนต์ ตัวนี้กันก่อน เพราะรู้สึกว่าจะแตกต่างกับ เลื่อยยนต์ ธรรมดาปกติทั่วไปที่เห็นกัน โดย SWITCH ตัวนี้จะมีทั้งหมด 4 ระดับนั่นคือถ้านับจากด้านบนลงด้านล่างด้านบนสุดจะเป็นปิดสวิตช์ส่วนระดับที่ 2 คือเปิดสวิตช์เครื่องส่วน ระดับ ที่ 3 กับ 4 จะเป็นโช๊คไว้สำหรับในกรณีที่เราสตาร์ทในเครื่องยนต์ หรือสตาร์ทไม่ติด อย่างตัวนี้ได้แกะกล่องมาใหม่ การสตาร์ทจะทำการเปิดโช๊ควิธีการสตาร์ทให้กดคันเร่งคันเร่งแล้วดันตัวสวิตช์ลงให้สุดถ้าไม่กดคันเร่งมันจะกดเปิดโช๊คไม่ได้นะครับจุดนี้ จากนั้นให้เราสตาร์ทจนมันจุดระเบิดกันเลยมันอาจจะยังไม่ติดหรอกหากมีสัญญาณว่าเครื่องเหมือนจะติดแล้วให้เราดันขึ้นมา ระดับที่ 3 นับจากบนลงล่าง จากนั้นให้เราสตาร์ทเครื่องจนติดเลยครับถ้ามันติดแล้วเครื่องมันจะเร่งอัตโนมัติแล้วให้เราบิดคันเร่ง 1 ครั้งกลับเข้ามาใช้งานได้ปกติ แต่ถ้าสตาร์ทในเครื่องร้อนเราไม่ต้องเปิดโช๊คได้แค่เปิดสวิตช์แล้วสตาร์ทได้เลยวิธีการสตาร์ทให้เราวางตัว เลื่อยยนต์ กับพื้นแล้วจากนั้นใช้เท้าเหยียบตรงด้านล่างของด้ามจับหรือว่าฐานของตัว เลื่อยยนต์ ให้มั่นจากนั้นปลดเบรกให้เรียบร้อย ดึงเชือก START กันได้เลย
การใช้งาน เลื่อยยนต์ STIHL MS180
การใช้งานตอนนี้ ถือว่าใช้งานได้สะดวกครับเนื่องจากขนาดตัวที่ไม่ใหญ่มากเป็นขนาดกำลังดีน้ำหนักไม่ได้มากแต่บาทที่ให้มาถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับในการใช้เล็กๆน้อยๆในงานบ้านหรือว่างานหนักได้เช่นกันแต่อาจจะไม่เพียงพอหากจะนำไปประกอบอาชีพจริงๆอาจจะต้องซื้อบาร์ที่ยาวเพิ่มขึ้นอีกแต่ต้องไปขึ้นทะเบียนกันด้วยนะครับ
ในเรื่องของกำลังให้มาขนาดสูงถึง 2 แรงม้า ผมก็ได้ลองตัดท่อนไม้ต่างๆ ถือว่าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดตามสไตล์ เลื่อยยนต์ STIHL MS180 เรียกได้ว่าเล็กพริกขี้หนู เห็นตัวเครื่องเล็กๆแบบนี้แต่หลังจากที่ได้ลองไปตัดไม้ ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเลยครับตัดได้สบายไม่ว่าจะเป็นการตัดไม้ท่อนใหญ่ถ้าเราค่อยๆตัดไม่มีเกิดอาการกันแบบว่าเร่งไม่ขึ้นเร่งไม่ไป เครื่องวูบตัดไม่เข้าแทบจะไม่มีอาการพวกนี้ให้เห็นเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ที่ว่าตัวเลื่อยโซ่ด้วยนะครับเลื่อยโซ่ต้องคมด้วยแหละถ้าจะตัดให้ดีหรือว่าตัดให้ใช้งานของตัวเลื่อยยนต์ STIHL MS180 ตัวนี้ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด เพราะถ้าหากตัวโซ่ไม่คมอาจจะเกิดอาการเครื่องวูบเร่งไม่ไปหรือตัดไม่เข้าได้ พยายามมันใช้ตะไบลับคมกันบ่อยๆหรือว่าทุกครั้งก่อนใช้งานจะดีมาก
สรุปเกี่ยวกับ เลื่อยยนต์ STIHL MS180
ตัว เลื่อยยนต์ STIHL MS180 คุณภาพมาตรฐานจาก เยอรมัน ตอนนี้ค่อนข้างชอบครับผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมช่างไม้ หรือว่าใครหลายๆคนที่จะเลือกซื้อ เลื่อยยนต์ สักตัวต้องเป็น เลื่อยยนต์ STIHL ด้วยตัวที่ขนาดเล็ก และน้ำหนักเบาถึงบาร์โซ่ที่ให้มาขนาดแค่ 12 นิ้วด้วยกำลังที่สูงถึง 2 แรงม้า สามารถเพิ่มความยาวของบาร์โซ่ได้สูงถึง 22 นิ้ว ไม่ว่าจะเป็นไม้แบบไหนตัดได้สบายให้กำลังใจที่ดีไม่เกิดอาการวูบหรือดับกลางคัน การสตาร์ทอะไรค่อนข้างง่าย ในเรื่องของอะไหล่หายห่วงเพราะว่าเป็นตัวที่คนไทยนิยมใช้กันอยู่มากสามารถเอาไปซ่อมได้ตามร้านที่ใกล้บ้านได้เลย หากใครที่กำลังหา เลื่อยยนต์ คุณภาพที่ได้มาตรฐานจากเยอรมัน อย่าง เลื่อยยนต์ STIHL MS180 ตัวนี้น่าจะเป็นทางเลือกแรกๆสำหรับทุกๆท่านนะครับ.
ดูราคา เลื่อยยนต์ STIHL ล่าสุด
Comments