in ,

12 เครื่องมือช่างไม้ สำหรับงานคราฟต์และ DIY ที่แนะนำ

      หลังจากที่ได้ทำงานไม้อย่างจริงจังก็รู้สึกสนุกและชอบค่ะ คงเพราะเราถนัดใช้สมองซีกขวามากกว่า ก็เลยชอบอะไรที่เป็นศิลปะและภาษา ชอบทำอะไรที่ได้คิด ได้ออกแบบ จินตนาการ 

      ไม่กล้าพูดว่าเชี่ยวชาญหรือรู้ลึก เพราะกำลังศึกษาไปเรื่อยๆ แต่อยากเอาเรื่องราวมาแชร์ให้ทุกคน เผื่อใครเพิ่งเริ่มหรือกำลังจะเข้าสู่วงการเหมือนช่างมุ้งมิ้งจะได้เรียนรู้ไปด้วยกัน ถ้าช่างมุ้งมิ้งเก่งขึ้น ในอนาคตคิดว่าจะต่อยอดทำชิ้นงานออกมาอีกหลายอย่างแน่นอนค่ะ

      เข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ จะแบ่งเครื่องมือออกเป็น 2 ประเภทนะคะ เป็น Hand Tool และ Power Tool ค่ะ ถึงจะเป็นเครื่องมือที่ควรมีแต่ก็ไม่ควรโหมซื้อทีเดียวนะคะ ค่อยๆ ซื้อไปทีละอย่าง เท่าที่ไหวดีกว่าค่ะ


เครื่องมือช่างไม้ ประเภท Hand Tool

      เป็นเครื่องมือที่ไม่ใช้ไฟฟ้าทั้งหลายค่ะ สำหรับมือใหม่เพิ่งเริ่มเข้าวงการ เริ่มต้นจากการใช้เครื่องมือประเภทนี้ก่อน ค่อยๆ เรียนรู้เพื่อฝึกปรือฝีมือ ถ้ามีงบมากขึ้นหรือต้องการขยายขอบเขตงาน อยากเพิ่มความสะดวกสะบายมากขึ้นค่อยหาเครื่องมือไฟฟ้ามาใช้ค่ะ แต่ใครจะเล่นใหญ่ตั้งแต่แรกเลยก็ไม่ขัดนะคะ แล้วแต่ความสะดวกและพึงพอใจของแต่ละคนค่ะ (^^)


1. สิ่วแบบต่างๆ พร้อมที่ลับคม (เช่น หินลับคม แท่นเจียร ฯลฯ)

      เวลาทำงานไม้ สิ่วเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้อย่างยิ่ง โดยเฉพาะงานคราฟต์ งานแกะสลักที่ต้องการความละเอียด สวยงาม ต้องเก็บงานเล็กๆ น้อยๆ อย่างปราณีต มันจะช่วยให้เราเข้าถึงจุดเล็กๆ น้อยๆ ได้ดีมากค่ะ สิ่วที่ดีวัสดุต้องแข็งแรง เช่น เหล็กกล้าหรือโครเมียมวานาเดียม ด้ามจับควรเป็นไม้เนื้อแข็ง

      และเพราะว่าสิ่วเป็นของมีคม ดังนั้น ก็ต้องมีที่ลับคมเผื่อเอาไว้ด้วย หลังจากใช้ไปนานๆ คมจะทู่ ทำให้ผิวเนื้อไม้ที่แกะไม่เรียบเนียน หรือเป็นขุย ของที่ใช้ลับอาจเป็นหินลับคม เครื่องเจียร หรือชุดลับคมที่เค้าทำมาเฉพาะก็ได้ แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ

      ชุดสิ่วที่ช่างมุ้งมิ้งดูแล้วเล็งๆ ไว้ก็คือ STANLEY 16-120 เป็นเบอร์เล็กค่ะ มี 6 ชิ้น ปลายสิ่วลักษณะแตกต่างกัน เพื่อให้ได้ร่องไม้ที่หลากหลาย ราคาประมาณ 500 บาทค่ะ ว่าจะซื้อพร้อมสิ่วปลายแบนยี่ห้อเดียวกันที่เป็นเซต 3 ชิ้นค่ะ


สื่ว

2. ค้อนไม้ / ค้อนพลาสติก

      เมื่อมีสิ่วก็ต้องมีค้อนไม้ เอาไว้ใช้งานคู่กัน เป็นคู่หูที่ขาดไม่ได้ ช่วยให้ค่อยๆ เซาะไม้ออกได้เป็นรูปร่างตามที่ต้องการ ถ้าไม่มีค้อนไม้ก็เลือกค้อนพลาสติกแทนได้ เพราะถ้าจะใช้ตอกสิ่วไม่ต้องมีน้ำหนักมากนักก็ได้ กลับกัน ถ้าใช้ค้อนที่มีน้ำหนักมากจะทำให้กะแรงลำบาก ทำให้สิ่วอาจจะกินเนื้อไม้ลึกเกินไป

      ข้อห้ามคืออย่าใช้ค้อนพวกนี้ตอกตะปูนะคะ ค้อนจะพังได้ มันเหมาะจะใช้เข้ารูปชิ้นงานหรือตอกสิ่ว ถ้าจะต้องตอกหรืองัดตะปูให้ใช้ค้อนหงอนค่ะ

      ค้อนที่แนะนำเป็นอันนี้ค่ะ ค้อน 2 หัวของ HALDER รุ่น SIMPLEX 40 มม. ช่างมุ้งมิ้งลองไปจับดูหลายอันแล้ว บางอันถึงหัวค้อนจะเป็นพลาสติกแต่วัสดุอิ่นๆ มันหนักค่ะ รู้สึกถือนานๆ ไม่ไหวแน่ แต่ตัวนี้เหมาะมือมาก น้ำหนักเบา ขนาดก็กำลังดี ด้านหนึ่งเป็นยาง ด้านหนึ่งเป็นพลาสติก และมันสามารถเปลี่ยนหัวค้อนได้ค่ะ

      ราคาอาจจะสูงไปหน่อย แต่เทียบกับคุณภาพก็โอเคค่ะ มันจะใช้ได้นาน ไม่สึกง่าย แรงสะเทือนน้อย แถมยังใช้กับงานอื่นๆ นอกจากงานไม้ได้ด้วยนะคะ อย่างเช่น งานก่ออิฐ ปูหิน สร้างรั้ว ทำบันได ซ่อมหลังคา งานโลหะ ตอกเหล็กส่ง เป็นต้น


ค้อนพลาสติก

3. เลื่อยมือ 

      สำหรับคนที่ไม่สะดวกจะซื้อเลื่อยไฟฟ้าก็เลือกเลื่อยมือแทนได้ นอกจากจะใช้ต้นทุนน้อยกว่าแล้วยังปลอดภัยกับหู เพราะเสียงไม่ดังเหมือนเครื่องมือไฟฟ้า

      งานคราฟต์และ DIY ส่วนมากขนาดจะไม่ใหญ่มาก ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องเลือกขนาดใหญ่ แต่สิ่งสำคัญเวลาจะเลือกหาให้ดูที่ฟันเลื่อยเป็นหลักว่าเป็นแบบดึง (push) หรือดัน (pull) เวลาตัดจะได้ออกแรงถูก

      เลื่อยมือที่แนะนำเป็นเลื่อยญี่ปุ่นที่ขนาดเหมาะมือ ไม่ต้องออกแรงมากก็ตัดได้ ผู้หญิงใช้ได้ ผู้ชายใช้ดี แต่ต้องระวังใบเลื่อยหน่อยนะคะ เพราะมันคมมาก ตอนหัดใช้แฉลบนิดเดียวก็ได้เลือดเลยค่ะ

      ตัวที่ช่างมุ้งมิ้งได้มาเป็นเลื่อยพับจาก ZET SAW รุ่น Tuck in 240 ความยาว 24 ซม. เพราะมันคม ทุ่นแรงได้ดี และดูปลอดภัย พกพาได้ จัดเก็บง่าย ดูไม่อันตรายสำหรับคนซุ่มซ่ามแบบเรา ตัวใบเลื่อยก็แข็งแรงและกันสนิมเพราะเคลือบนิกเกิล แถมเปลี่ยนใบเลื่อยได้ เค้ามีแถมมาให้อันหนึ่งด้วยค่ะ ราคาไม่แรง เหมาะจะตัดไม้แปรรูปไม้เนื้ออ่อน และไม้ทั่วไป ลองไปหาใช้กันดูนะคะ


เลื่อยพับ

4. ระดับน้ำ

      ถ้าเป็นงาน DIY เฟอร์นิเจอร์ โดยเฉพาะพวกโต๊ะหรือชั้นวาง ความสมมาตรเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น ถ้ามีระดับน้ำก็จะทำให้งานง่ายขึ้น จัดการกับความลาดเอียงได้สะดวก

      ระดับน้ำที่แนะนำเป็นของ STABILA ที่ขึ้นชื่อเรื่องระดับน้ำมาแต่ไหนแต่ไร ถ้าเลือก Type 104 Allround ก็จะได้ฉากสำหรับวัดมุมในคราวเดียวด้วย มีมุม 45 ํ 60 ํ  120 ํ และ 135 ํ ความยาว 25 ซม. 

      ระดับน้ำอันนี้เหมาะกับงานขนาดเล็กถึงปานกลางค่ะ มันยังวัดความลาดเอียงตามองศาต่างๆ ได้ด้วยนะคะ ราคาไม่แพง เหมาะกับมือใหม่ที่เพิ่งหัดใช้หัดทำ เน้นฟังก์ชันหลากหลายแบบคุ้มๆ ค่ะ


ระดับน้ำ

5. แคลมป์

      เอาไว้จับชิ้นงาน เพราะเวลาทำงานคนเดียวอาจจะลำบากในการจับไม้หรือประกบไม้ค่ะ เช่น ยึดไว้กับโต๊ะเพื่อเลื่อย เจาะ เซาะ หรือแกะสลัก ทำให้ไม้นิ่ง งานก็จะผิดพลาดน้อยค่ะ

      ถ้าพูดถึงแคลมป์ก็ต้อง BESSEY ค่ะ ตอนไปซื้อเจอเป็นโซนเลย ขนาดไหนก็มี คุณภาพโอเค ของช่างมุ้งมิ้งเป็นรุ่น DIY Gear Clamp ขนาด 150/60 มม. ค่ะ เพราะมันใช้งานง่าย ถ้าจะหนีบก็แค่หมุนด้ามจับให้แน่น ตอนคลายแค่ดันปุ่มแล้วดึงออก ง่ายๆ แบบนี้เลยค่ะ เวลาจับงานก็ไม่เป็นรอยค่ะ แม้จะตัวเล็กแต่แรงหนีบสูงถึง 2,000 นิวตัน ใช้กับพื้นที่แคบๆ ได้ด้วยค่ะ


แคลมป์

6. ตลับเมตร

      ตลับเมตรเอาไว้ใช้วัดค่ะ งาน DIY เฟอร์นิเจอร์จะต้องใช้บ่อย มีความสำคัญตั้งแต่ขั้นตอนการวัดไม้ สิ่งสำคัญในการเลือกตลับเมตรคือมาตรฐานและขนาดที่เหมาะสมค่ะ บนตลับเมตรจะมีเลขโรมันติดไว้ มันบ่งบอกถึงความแม่นยำในการวัดค่ะ ถ้าเลขน้อยแสดงว่าแม่นยำสูง 

      ต้องบอกก่อนว่าตลับเมตรเป็นสินค้าควบคุม ต้องผ่านมาตรฐานถึงจะผลิตหรือนำเข้าจำหน่ายได้ ฉะนั้น มันถึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องเลือกตลับเมตรที่มีความน่าเชื่อถือ ไว้วางใจได้ การวัดจะคลาดเคลื่อนน้อยและเป็นมาตรฐานสากล 

      ยี่ห้อที่แนะนำจะเป็นพวก STABILA, STANLEY, DEWALT, MILWAUKEE, FESTOOL เป็นต้นค่ะ แต่ที่เอามาให้ดูวันนี้เป็นของที่ผลิตในไทยแต่ได้มาตรฐานมากๆ อย่าง Pro Tape

      ขนาดที่เลือกมาคือ 3.5 เมตร เป็นขนาดพกพาได้ แม้จะกะทัดรัดแต่ได้มาตรฐาน EEC II Accuracy พิมพ์สเกล 2 ด้าน และที่ชอบคือเสียงตอนดึงมันนุ่มนวลค่ะ ทั้งเวลาดึงและม้วนกลับเข้าตลับ ไม่รู้สึกเสียดฟันเหมือนตัวอื่นๆ


ตลับเมตร

7. ฉาก

      สำหรับงาน DIY ที่ต้องเข้ามุมจะจำเป็นต้องมีฉากค่ะ ยิ่งถ้าเป็นของที่ต้องรับน้ำหนักหรือวางของ เพราะมันมีผลต่อความลาดเอียงและน้ำหนักที่จะรับได้ อันนี้เลือกได้ตามอิสระค่ะ ร้านเครื่องเขียนก็อาจมีจำหน่าย แต่ต้องเลือกที่มีมาตรฐานนะคะ 

      ของช่างมุ้งมิ้งเป็นยี่ห้อ PUMPKIN ค่ะ รุ่น PTT-8CR200 เลือกมาเพราะมันหนาดี หนาแบบตะโกน และใช้คู่กับแคลมป์ได้ ราคาแค่ร้อยกว่าบาท 

      วัสดุเป็นพลาสติกแต่ว่าแข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบาค่ะ ตอนไปซื้อดูหลายแบบเลยค่ะ แต่เพราะทำฉากเหล็กหลุดมือแล้วมุมมันโดนนิ้ว ได้แผลมาโดยบังเอิญก็เลยเลือกแบบที่เบาและขอบมุมไม่แหลมคมค่ะ (T^T)


ฉาก

8. กาวติดไม้

      สำหรับคนที่ทำงานชิ้นเล็กๆ แล้วต้องมีการประกอบชิ้นส่วนต่างๆ กาวเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด แต่กาวที่จะใช้ก็ต้องเลือกให้ดีด้วย จะใช้มั่วๆ ไม่ได้ 

      กาวติดไม้ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ติดไม้โดยเฉพาะ ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็ลองถามร้านใกล้ๆ บ้านดูนะคะ บอกไปว่ากาวติดไม้ได้เลย เค้าจะรู้ค่ะ ขวดเล็กก็ราคาหลักร้อยเองค่ะ ถ้าแถวบ้านไม่มีก็สั่งออนไลน์เอา ช่างมุ้งมิ้งเคยใช้ของ ELMER’S Wood Glue Max 118 มล. ค่ะ ติดแน่นใช้ได้เลย 


กาวติดไม้

9. กระดาษทราย / ฟองน้ำทราย

      งานไม้นั้นต้องมีการขัดเพื่อให้ชิ้นงานเรียบน้อย เรียบเนียน ไม่มีเสี้ยนหรือส่วนที่ไม่ต้องการ ถ้ามีงบเยอะจะซื้อเครื่องเจียรหรือเครื่องขัดกระดาษทรายก็ได้ แต่ถ้ายังไม่มีงบหรือจะทำงานชิ้นเล็กๆ ขัดง่าย ก็ใช้กระดาษทรายจัดการได้ เลือกไว้หลายๆ เบอร์หน่อยนะคะ เผื่อไว้ขัดหยาบและขัดละเอียด 

      นอกจากกระดาษทรายก็ใช้ฟองน้ำทรายแทนได้เหมือนกันค่ะ จับสะดวกกว่าด้วย ราคาไม่เกิน 40 บาท หาซื้อไม่ยากค่ะ


ฟองน้ำทราย

เครื่องมือช่างไม้ ประเภท Power Tool

      เครื่องมือไฟฟ้าเดี๋ยวนี้มีหลายแบบให้เลือกมากค่ะ ทั้งแบบมีสายและไร้สาย ขนาดต่างๆ ที่เหมาะสมกับงาน ประเภทงานที่เหมาะสม เป็นต้น เครื่องมือไฟฟ้าจะทำให้งานง่ายและสะดวกขึ้นค่ะ ช่วยทุ่นแรงได้ดีด้วย แต่ข้อเสียคือเสียงจะดัง ราคาจมีตั้งแต่ปานกลางไปถึงสูง ต้องมีงบพอประมาณถึงจะซื้อได้ และควรศึกษาให้ดีก่อนซื้อค่ะ

      ช่างมุ้งมิ้งไปดูหลายอัน สนใจหลายตัวเลย แต่ว่ามันมีปัจจัยเรื่องแบตเตอรี่ด้วย ก็เลยเอา BOSCH 12 โวลต์มาค่ะ จะได้ใช้ร่วมกันได้ ไม่ต้องซื้อแบตแยกอีกทุกตัว 

      ที่เลือก 12 โวลต์ เพราะไม่ได้ใช้งานหนักด้วยค่ะ ไม่ได้ต้องการกำลังไฟสูงๆ ด้วย มันพอดีแล้วสำหรับ Beginer ที่ไม่ได้ใช้งานทั้งวัน


10. เครื่องเจียรแกน / เครื่องเจียรคอยาว

      สำหรับเครื่องเจียรแบบแกนนี้ช่วยเรื่องการทำร่อง ขัดชิ้นงานในมุมเล็กๆ แคบๆ แถมยังใช้ตัด ขัด เจีย ได้ในเครื่องเดียวเพียงแค่เปลี่ยนดอกให้เหมาะสม ช่วยลดเครื่องมือที่ต้องใช้ลงได้หลายอย่างเลยค่ะ เป็นเครื่องมือที่สะดวก ถ้ามีไว้สักอันก็ดีเลย ราคาแค่ไม่กี่พันค่ะ 

      ตัวที่ช่างมุ้งมิ้งได้มาเป็นรุ่น GRO 12V-35 ของ BOSCH ตัวนี้เลยค่ะ มันเล็กแบบเข้ามือพอดี น้ำหนักเบา ใช้งานมือเดียวได้สบายแม้จะเป็นคนมือเล็กแรงน้อย แถมเป็นแบบไร้สาย

      ตัวเครื่องปรับความเร็วได้ถึง 6 ระดับ รองรับการใช้งานหนัก เจียรไม้ได้สบายๆ ตอนใช้งานก็ไม่เห็นแปลงถ่านเหมือนบางยี่ห้อในราคาใกล้เคียงกัน ลดความหวาดเสียวในใจลงได้เยอะเลยค่ะ 

      ดอกที่ต้องมีเลยก็คือดอกกระดาษทรายนะคะ ต้องซื้อแยกค่ะ หรือใครจะแอดวานซ์ซื้อชุดดอกเจียรมาใช้แกะสลักก็ไม่ว่ากัน เหมาะกับงาน DIY มากๆ ชุดหนึ่งแค่ไม่กี่ร้อยบาทเองค่ะ คุ้มค่า ใช้งานได้สารพัดอย่างแน่นอน


เครื่องเจียรคอยาว

11. สว่าน

      งานคราฟต์อาจไม่ต้องใช้ แต่งาน DIY จะจำเป็นมาก เพราะแค่เปลี่ยนดอกก็พลิกแพลงใช้งานได้หลากหลาย ช่างมุ้งมิ้งเลือกแบบเป็นชุดที่มีแบตเตอรี่และแท่นชาร์ตมาให้พร้อมทีเดียวเลยค่ะ จะได้เอาแบตเตอรี่ไปใช้กับเครื่องเจียรและเครื่องขัดกระดาษทรายด้วยเลย

      ตัวนี้เป็นชุดสว่านกระแทกไร้สาย BOSCH GSB 12V-30 เค้าให้มาพร้อมกล่องเลยค่ะ ข้างในมีสว่าน Brushless 1 ตัว แบตเตอรี่ 2 ก้อน และแท่นชาร์ต กล่องเดียวคุ้มจบค่ะ

      ตัวเครื่องจิ๋วแต่แจ๋ว ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ด้วยความที่เป็นระบบกระแทกก็เลยใช้กับงานได้เยอะนอกเหนือจากงานไม้ ไม่ว่าจะเป็นงานปูน เหล็ก อิฐ ก็เอาอยู่หมดค่ะ


สว่านกระแทก

12. เครื่องขัดกระดาษทราย

      ถ้าหากเป็นงานที่ชิ้นค่อนข้างใหญ่ ใช้กระดาษทรายก็คงจะลำบากและใช้เวลานาน ถ้ามีเครื่องขัดกระดาษทรายก็จะง่าน งดเวลาลงได้มาก แถมยังได้งานที่เรียบเนียน สม่ำเสมอกันดีด้วย 

      สำหรับใครที่สนใจจะมีไว้เหมือนกัน ลองดูยี่ห้อ MAKITA หรือ BOSCH นะคะ มีหลายรุ่นหลายแบบให้เลือก เรทราคาไม่สูง มือใหม่รับไหวค่ะ ถ้าเป็นรุ่นที่มีสายก็จะถูกหน่อย แต่ก็ค่อนข้างเกะกะ ถ้าไม่ได้ทำงานที่กว้างๆ ต้องขยับไปมาเป็นวงกว้างใช้แบบมีสายก็ได้ค่ะ

      ของช่างมุ้งมิ้งที่เอามาให้ดูวันนี้เป็นของ BOSCH รุ่น GEX 12V-125 ค่ะ แบบใช้แบตเตอรี่ ปรับระดับแรงหมุนได้ 6 ระดับ เปิดปิดง่าย จับอยู่มือ ใช้มอเตอร์ Brushless ข้างๆ ตัวเครื่องบอกระดับแบตเตอรี่ด้วย 

      นอกจากนี้ยังมีถุงเก็บฝุ่นเล็กๆ ให้ด้วยค่ะ ต่อกับเครื่องได้ง่ายๆ เลย เก็บฝุ่นได้พอประมาณ ข้อดีคือทำความสะอาดง่าย ใช้กับกระดาษทรายกลมแบบที่มีรูเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 ซม. นะคะ หรือเวลาจะซื้อเปลี่ยนก็เอาอันที่เค้าให้มาไปที่ร้านด้วยก็ได้ เครื่องเปล่าไม่รวมแบตราคาไม่เกินสามพันค่ะ


เครื่องขัดกระดาษทราย

      ทั้งหมดนี้ก็คือเครื่องมือที่ควรมีค่ะ ไม่ฟิกว่าต้องมีทุกคน ให้ดูด้วยว่างานตัวเองเป็นแบบไหน ต้องใช้อะไรบ้าง แล้วค่อยดูตามที่ช่างมุ้งมิ้งแนะนำก็ได้ค่ะ

      ถ้าถูกใจบทความดีๆ แบบนี้อย่าลืม กดไลก์ ? หรือหัวใจ ❤ ข้างล่างให้ด้วยนะคะ เป็นกำลังใจให้ช่างมุ้งมิ้งหาอะไรดีๆ มาบอกเล่าต่อๆ ไปค่ะ (^-^) 


บทความเรื่องอื่นๆ ของช่างมุ้งมิ้ง

[Wood DIY] มาทำของขวัญวาเลนไทน์เก๋ๆ กันเถอะ!!

ใครยังใช้เทปกาวซ่อมทุกอย่างอยู่บ้าง เปลี่ยนมาใช้ กาวซิลิโคนใส ได้แล้วนะ!!


What do you think?

-2 Points
Upvote Downvote

Comments

Comments

Loading…

0

Written by Aoily J.

Learning is never end.

วิธีทำความสะอาดเครื่องมือไฟฟ้า

วิธีทำความสะอาด เครื่องมือไฟฟ้า PowerToolsด้วยขั้นตอนง่ายๆ

เครื่องวัดระยะเลเซอร์ BOSCH GLM 150C

พรีวิวสเปค ฟังก์ชั่น เครื่องวัดระยะเลเซอร์ BOSCH GLM 150C