in

ใส่ รองเท้าเซฟตี้ ทุกวัน ทำยังไงไม่ให้เหม็น ไม่ชื้น?

รองเท้าเซฟตี้ เป็นอุปกรณ์สำคัญที่หลายคนต้องใส่ทุกวัน ไม่ว่าจะทำงานในโรงงาน อยู่หน้างานก่อสร้าง ลุยคลังสินค้า หรือเป็นช่างมืออาชีพก็ตาม บอกเลยว่าถ้าไม่มี รองเท้าเซฟตี้ ดีๆ ใส่ งานก็ไม่ปลอดภัย แถมเท้าเราก็ลำบากแน่ๆ

แต่ปัญหาก็คือ…ใส่ทุกวันแล้วเริ่มมีกลิ่นตุๆ ชื้นตลอดเวลา บางคู่นี่ยังไม่ทันถึงครึ่งปีเลย พื้นก็ขาด ส้นก็หลุด แล้วอย่างนี้จะคุ้มยังไง?คำถามที่หลายคนอยากรู้ก็คือ… จะดูแล รองเท้าเซฟตี้ ยังไงให้ใช้งานได้นาน ไม่เหม็น ไม่อับ ไม่พังเร็ว? ไม่ต้องห่วงครับ เพราะบทความนี้เรารวบรวมเทคนิคง่ายๆ ที่คุณทำได้เองจริงในชีวิตประจำวันแบบไม่ยุ่งยากแน่นอน!

ทำไม รองเท้าเซฟตี้ ถึงมักจะเหม็นและพังไว?

กลิ่นเหม็นเกิดจากอะไร?

  • เหงื่อ ลองนึกภาพว่าเราใส่ รองเท้าเซฟตี้ ทำงานทั้งวัน ยืนบ้าง เดินบ้าง เท้ายังไงก็ต้องมีเหงื่อออกแน่นอน แล้วเหงื่อนี่แหละเป็นของโปรดของแบคทีเรีย พอมันสะสมอยู่ในรองเท้าไปเรื่อยๆ ก็ไม่แปลกที่กลิ่นจะตามมาแบบไม่ได้นัดหมาย
  • ความอับชื้น บางคนถอด รองเท้าเซฟตี้ แล้วโยนไว้ในล็อกเกอร์หรือถุงทั้งแบบนั้นเลย พอไม่มีลมผ่าน ความชื้นจากเหงื่อหรือจากหน้างานก็ไม่ระเหยออกไป กลายเป็นแหล่งหมักหมมของกลิ่นแบบเต็มๆ เลยครับ ยิ่งวันไหนฝนตกหรือพื้นเปียกนี่แทบไม่ต้องพูดถึง กลิ่นอับมาแน่นอน!
  • การไม่ทำความสะอาด ลองคิดดูนะครับว่าทุกวันเราเดินผ่านพื้นที่มีฝุ่น มีคราบน้ำมัน หรือคราบสกปรกต่างๆ แล้วพอเลิกงานกลับบ้านก็ถอด รองเท้าเซฟตี้ เก็บเลย ไม่เคยเช็ด ไม่เคยล้าง นานวันเข้ารองเท้าก็เลยกลายเป็นแหล่งรวมกลิ่นดีๆ นี่เอง ยิ่งใครทำงานในโรงงานหรือไซต์งานที่เจอคราบทุกวัน บอกเลยว่าไม่ทำความสะอาดนี่มีกลิ่นแน่นอน!

ทำไมถึงพังเร็ว?

  • ใช้งานผิดประเภท หลายคนอาจไม่รู้ว่า รองเท้าเซฟตี้ แต่ละรุ่นก็มีงานที่เหมาะกับมันนะครับ อย่างพื้น PU ที่ขึ้นชื่อว่าเบา ใส่สบาย แต่ไม่ถูกกับความร้อนเลย ถ้าเอาไปลุยไซต์งานที่ต้องเจอกับเตา ความร้อนจัด หรือโลหะหลอมละลายบ่อยๆ รับรองว่าพื้นละลาย พังไวแน่นอน แบบนี้เลือกผิดชีวิตเปลี่ยนเลยล่ะ!
  • ไม่ดูแล บางคนใส่ รองเท้าเซฟตี้ ทุกวัน แต่ไม่เคยดูแลเลย ไม่เคยเช็ด ไม่เคยตากให้แห้ง บางทีพื้นรองเท้าด้านในเริ่มยุ่ยก็ยังฝืนใช้ต่ออีก แบบนี้พังเร็วแน่นอนครับ เพราะ รองเท้าเซฟตี้ ก็เหมือนของใช้ส่วนตัวอื่นๆ ถ้าไม่ดูแลมันก็เสื่อมเร็วเป็นธรรมดา
  • สวมใส่ผิดวิธี หลายคนอาจไม่ทันได้คิดว่าการใส่ รองเท้าเซฟตี้ ผิดวิธีนี่แหละตัวดีเลยครับ เช่น ใส่แล้วไม่ยอมผูกเชือกให้แน่น ปล่อยให้หลวมๆ เดินทีเหมือนจะหลุด หรือบางคนชอบขี้เกียจใส่ดีๆ ใช้วิธีเหยียบส้นเข้าไปเฉยๆ หรือเอาเท้าไถเข้าไถออกทุกวัน แบบนี้ไม่ใช่แค่พังเร็ว แต่ยังเสี่ยงข้อเท้าพลิกอีกด้วย!

วิธีดูแล รองเท้าเซฟตี้ ไม่ให้เหม็น

1. ใช้ถุงเท้าที่ระบายอากาศได้ดี

ถุงเท้าคือด่านแรกที่ช่วยดูดซับเหงื่อของเราเลยครับ ถ้าใช้ถุงเท้าถูกๆ ผ้าหนาๆ อับๆ เหงื่อจะสะสมอยู่ในรองเท้าเซฟตี้ เต็มๆ ทำให้กลิ่นมาแน่นอน แนะนำให้เลือกถุงเท้าที่ระบายอากาศดีหน่อย อย่างผ้าฝ้าย หรือแบบที่มีเส้นใยพิเศษอย่าง Coolmax หรือ Bamboo พวกนี้ช่วยลดความอับชื้นได้ดี แถมใส่แล้วเย็นสบายเท้าอีกต่างหาก ใครลองแล้วจะติดใจ!

2. โรยแป้งดูดกลิ่นหรือผงดับกลิ่นก่อนใส่

แป้งฝุ่นหรือผงดับกลิ่นเท้าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่เรียกได้ว่าเบสิคแต่โคตรเวิร์ก หลายคนมองข้ามไปเพราะคิดว่าไม่จำเป็น แต่จริงๆ แล้วมันช่วยได้เยอะมากครับ แค่โรยก่อนใส่ รองเท้าเซฟตี้ ทุกเช้า รับรองว่าช่วยให้รองเท้าหอมขึ้นเยอะ ลดกลิ่นอับได้แบบไม่ต้องพึ่งน้ำหอม แถมยังช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียด้วย ใช้แป๊บเดียว แต่ได้ผลทั้งวัน!

3. ใช้แผ่น รองเท้าเซฟตี้ แบบถอดซักได้

เลือกแผ่นรองพื้นรองเท้าที่ถอดมาซักได้จะช่วยชีวิตมากครับ โดยเฉพาะคนที่ใส่ รองเท้าเซฟตี้ ทุกวันจนเหงื่อสะสม แนะนำให้ถอดมาซักอาทิตย์ละครั้ง ไม่ต้องขัดมาก เอาแค่สะอาดก็พอ แค่นี้ก็ช่วยลดกลิ่นสะสมไปได้เยอะ แถมยังช่วยให้เท้านุ่มสบาย ไม่รู้สึกแข็งกระด้างเวลาเดินอีกด้วย

4. ใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อ/ดับกลิ่นเป็นประจำ

ทุกสัปดาห์ควรหาเวลาสักนิดมาฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อหรือดับกลิ่นลงไปใน รองเท้าเซฟตี้ ครับ แล้วก็ปล่อยให้แห้งก่อนเอามาใส่ใหม่ อย่ารีบใส่ทั้งที่ยังชื้นอยู่ เพราะกลิ่นมันจะยิ่งอบอวลอยู่ข้างใน สเปรย์พวกนี้จะช่วยลดเชื้อรา แบคทีเรีย และกลิ่นอับได้ดีมาก เหมาะสำหรับคนที่ต้องใส่รองเท้าทำงานทุกวันแบบเราๆ นี่แหละ


วิธีดูแล รองเท้าเซฟตี้ ไม่ให้ชื้น

1. ผึ่งลมทุกวันหลังเลิกงาน

อย่าปล่อยให้ รองเท้าเซฟตี้ ตัวโปรดของคุณนอนอับอยู่ในล็อกเกอร์หรือถุงแบบนั้นเลยครับ! พอถอดรองเท้าเสร็จแล้ว แนะนำให้เปิดลิ้นรองเท้าออก วางผึ่งลมในที่แห้ง มีลมผ่านสบายๆ จะช่วยให้รองเท้าหายใจได้บ้าง ไม่อับ ไม่หมักกลิ่น ยิ่งถ้าใครมีที่แขวนหรือชั้นตากรองเท้าก็ยิ่งดีเลย แต่อย่าเผลอเอาไปวางตากแดดจ้าๆ นะครับ เพราะความร้อนแรงๆ อาจทำให้วัสดุ รองเท้าเซฟตี้ เสื่อมเร็วโดยไม่รู้ตัว

2. ใช้ซิลิก้าหรือถุงดูดความชื้น

ใส่ถุงซิลิก้าหรือถุงดูดความชื้นไว้ใน รองเท้าเซฟตี้ ทุกคืน เป็นทริกง่ายๆ ที่ช่วยได้มากจริงๆ ครับ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนหรือถ้าใครต้องทำงานในที่เปียกๆ เป็นประจำ วิธีนี้ช่วยดูดความชื้นออกจากรองเท้า ทำให้รองเท้าแห้งเร็วขึ้น ไม่อับ ไม่บูด แล้วกลิ่นก็ลดลงแบบเห็นผล ใครยังไม่เคยลอง แนะนำให้หาแบบซองเล็กๆ มาใส่ไว้เลยครับ ไม่เปลืองที่ด้วย

3. หลีกเลี่ยงการใส่ รองเท้าเซฟตี้ เปียกซ้ำ

ถ้า รองเท้าเซฟตี้ เปียกฝนหรือไปเหยียบอะไรเปียกๆ มา อย่างน้ำมันหรือน้ำขัง อย่าเพิ่งรีบเอามาใส่ซ้ำทันทีนะครับ ปล่อยให้มันแห้งสนิทก่อนดีกว่า เพราะความชื้นเนี่ยแหละคือตัวการหลักที่ทำให้รองเท้าเหม็นและขึ้นราเร็วแบบไม่รู้ตัวเลย แถมยังทำให้ รองเท้าเซฟตี้ เสื่อมเร็วอีกด้วย

4. สลับ รองเท้าเซฟตี้ ใส่บ้าง

ถ้าคุณมี รองเท้าเซฟตี้ มากกว่า 1 คู่ แนะนำให้สลับใส่แบบวันเว้นวันบ้างนะครับ เพราะแต่ละคู่จะได้มีเวลาพัก ได้ตากลมแห้งตัวเต็มที่ ไม่ต้องทำงานหนักทุกวันเหมือนพนักงานไม่มีวันหยุด ฮ่าๆ วิธีนี้ช่วยให้ รองเท้าเซฟตี้ ไม่อับ กลิ่นไม่สะสม และที่สำคัญคือยืดอายุการใช้งานไปได้อีกเยอะเลยล่ะ

วิธีดูแล รองเท้าเซฟตี้ ไม่ให้พังเร็ว

1. ทำความสะอาด รองเท้าเซฟตี้ อย่างสม่ำเสมอ

  • เช็ดคราบฝุ่นและน้ำมันด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ แบบง่ายๆ ไม่ต้องถึงกับแช่ทั้ง รองเท้าเซฟตี้ แค่เช็ดจุดที่เลอะให้สะอาดพอ
  • ใช้แปรงขัด รองเท้าเซฟตี้ เฉพาะจุดที่เปื้อนมากๆ โดยเฉพาะรอยคราบฝังลึก เช่น คราบน้ำมัน คราบโคลน ค่อยๆ ขัดอย่าใจร้อน เดี๋ยวหนังหรือผ้าจะพัง
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผงซักฟอกแรงๆ หรือพวกน้ำยาซักผ้าชนิดเข้มข้น เพราะอาจไปกัดวัสดุรองเท้า ทำให้หนังลอกหรือยางแข็งกรอบเร็วได้

2. หมั่นตรวจเช็กสภาพพื้น รองเท้าเซฟตี้

พื้น รองเท้าเซฟตี้ บางประเภท เช่น PU หรือ NBR ถึงจะดูแข็งแรง ทนทานแค่ไหน ก็มีวันหมดอายุนะครับ ไม่ได้อยู่ยงคงกระพัน ถ้าเริ่มสังเกตว่าพื้นเริ่มบาง ยึดเกาะไม่ดี มีรอยแตก หรือเวลาเดินแล้วรู้สึกลื่นๆ แปลกๆ อย่าฝืนใช้งานต่อเลยครับ เปลี่ยนใหม่จะปลอดภัยกว่าทั้งตัวคุณและสุขภาพเท้า

3. อย่าทิ้ง รองเท้าเซฟตี้ ไว้ในที่ร้อนจัดหรือแดดแรง

แดดจัดหรือความร้อนแรงๆ นี่ตัวการเลยครับที่ทำให้ รองเท้าเซฟตี้ พังไวแบบไม่รู้ตัว โดยเฉพาะพื้น PU ที่ขึ้นชื่อว่าแพ้แดดสุดๆ เจอร้อนมากๆ เข้าไปก็ละลาย แข็งกรอบ หรือเปราะได้ง่ายๆ ทางที่ดีควรตากรองเท้าไว้ในที่ร่ม ลมโกรกๆ มีอากาศถ่ายเทดี จะช่วยยืดอายุ รองเท้าเซฟตี้ ได้อีกเยอะเลยครับ

4. ใส่ รองเท้าเซฟตี้ ให้ถูกวิธี

บางคนอาจรีบๆ หรือขี้เกียจนิดหน่อย เลยใส่รองเท้าแบบไม่ผูกเชือก เดินแบบเชือกหลวมๆ หรือเหยียบส้นให้พอลื่นเข้าไปได้ ซึ่งจริงๆ แล้วพฤติกรรมแบบนี้ทำร้ายรองเท้ามากนะครับ ทั้งเสียทรง พื้นแอ่น ยางแยกเร็ว แถมยังทำให้เสี่ยงข้อเท้าพลิกหรือสะดุดอีกต่างหาก อยากให้รองเท้าอยู่กับเรานานๆ แค่สละเวลาไม่กี่วินาที ใส่ให้ถูก ผูกเชือกให้แน่น ก็ช่วยถนอม รองเท้าเซฟตี้ ไปได้เยอะเลยครับ


เคล็ดลับเสริมให้อายุ รองเท้าเซฟตี้ ยาวขึ้นอีกเท่าตัว

ใช้แผ่นรองกันกระแทก

เจ้าแผ่นรองกันกระแทกนี่แหละเป็นพระเอกของคนที่ต้องยืนหรือเดินทั้งวันเลยครับ เพราะมันจะช่วยซัพพอร์ตฝ่าเท้า ลดแรงกระแทก ไม่ทำให้เมื่อยง่าย แถมยังช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้น รองเท้าเซฟตี้ ด้านในไม่ให้ยุ่ยเร็วอีกด้วย ใครยังไม่เคยใช้ แนะนำให้ลองเลยครับ แล้วจะรู้ว่าต่างจริง!

เก็บในกล่องหรือถุงผ้าที่ระบายอากาศได้

อย่าเผลอเอา รองเท้าเซฟตี้ คู่โปรดไปเก็บในถุงพลาสติกเด็ดขาดนะครับ เพราะมันจะเก็บความชื้นไว้เต็มๆ ทำให้รองเท้าเหม็นง่าย พื้นยางก็จะเสื่อมเร็วอีกต่างหาก ทางที่ดีควรเก็บในกล่องที่มีรูระบายอากาศ หรือถุงผ้าที่โปร่งๆ หน่อย ให้รองเท้าได้หายใจบ้าง หนังไม่บวม ยางไม่กรอบ ใส่ได้นานขึ้นแบบไม่ต้องกลัวพังไวครับ

ใช้ รองเท้าเซฟตี้ ตามประเภทของงาน

อย่าเอา รองเท้าเซฟตี้ สำหรับเดินชิลๆ ไปลุยไซต์งานแบบหนักหน่วงเลยครับ เพราะรองเท้าเซฟตี้แต่ละคู่เขาออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมต่างกัน ใส่ผิดที่ผิดงาน นอกจากพื้นจะพังเร็วแล้ว ยังเสี่ยงลื่นล้ม เจ็บตัวฟรีๆ อีกต่างหาก อย่างพื้นที่แห้งก็ไม่ควรเอาไปลุยน้ำมัน หรือพื้นมันๆ เพราะยางอาจไม่เกาะพื้นพอ แล้วจะโทษใครไม่ได้นะครับ

What do you think?

Comments

Comments

Loading…

0

Written by TiTlECNx

อย่าหยุดตอนที่คุณเหนื่อย..จะหยุดเมื่อคุณทำสำเร็จแล้ว

เจาะลึก หน้ากากเชื่อม อัตโนมัติทำงานยังไง? แม่นยำแค่ไหน แล้วไว้ใจได้หรือเปล่า?