กล่องเครื่องมือจำเป็นยังไง?
เครื่องมือช่างมีหลายขนาด หลายประเภท แถมยังมีคุณสมบัติและการใช้งานแตกต่างกัน มันคงจะยุ่งเหยิงมากเวลาทำงานถ้าต้องคอยคุ้ยหาเครื่องมือที่ต้องใช้ในกองเครื่องมือ ยิ่งถ้าเป็นพวกมีสายไฟยิ่งยุ่งยาก แม้ว่าตอนวางจะพับสายเก็บอย่างดีแล้ว แต่ก็ยังคงมีปัญหาในการเกี่ยวหรือพันกับอย่างอื่น
นอกจากนี้ยังมีเรื่องความสะอาด แม้ว่าในพื้นที่ทำงานจะทำให้เป็นเขตสะอาดได้ยาก แต่ก็ไม่อาจปล่อยเครื่องมือบางชนิดให้ฝุ่นเกาะได้ โดยเฉพาะเครื่องมือดิจิตอลและเครื่องมือไฟฟ้าที่ต้องระวังเรื่องฝุ่นกับน้ำเป็นพิเศษ
ดังนั้น กล่องเครื่องมือจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยขจัดปัญหาที่กล่าวมาได้ ช่วยให้เครื่องมือเป็นระเบียบ หยิบใช้งานง่าย สะดวก ช่วยลดอุปสรรคในการทำงาน และไม่ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ
บทความนี้จะมาพูดถึงกล่องเครื่องมือประเภทต่างๆ ของ SATA เพื่อช่วยให้ทุกคนเข้าใจประโยชน์และรายละเอียดบางอย่างที่อาจนึกไม่ถึงของกล่องเครื่องมือ
ทำไมต้องเลือกกล่องเครื่องมือของ SATA ?
SATA เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องมือช่างหลากหลายประเภท หลายขนาด ดังนั้น จึงมีความเข้าใจในเครื่องมือ และใส่ใจเครื่องมือที่ตัวเองผลิต เครื่องมือส่วนมากมีขนาดเล็ก เช่น ไขควง ประแจ ลูกบล็อก ดังนั้น เวลาเก็บจึงเกิดปัญหาเรื่องการกระจัดกระจายหรือปนกันมั่วเมื่อไปหมดได้ง่ายๆ หากมีกล่องเครื่องมือก็จะช่วยให้ปัญหาเหล่านั้นหมดไป
เครื่องมือของ SATA เป็นที่นิยมมาก คนส่วนใหญ่เลือกใช้ ดังนั้น หากเลือกซื้อกล่องของ SATA ไปด้วยก็จะช่วยเก็บเครื่องมือเหล่านั้นได้อย่างพอดี ไม่ต้องกังวลว่าขนาดจะเล็กหรือใหญ่ไป ไม่พอดีกับเครื่องมือที่มีอยู่
ประเภทกล่องเครื่องมือของ SATA
จำแนกจากวัสดุและลักษณะได้ 3 ประเภทด้วยกัน ดังนี้
1. กล่องพลาสติก SATA
เป็นประเภทที่น้ำหนักเบาที่สุด ราคาไม่แพง และมีหลายไซส์มากๆ เหมาะสำหรับใส่เครื่องมือทั่วไป หรือของอเนกประสงค์ ไม่ใช่แค่เครื่องมือช่างเท่านั้น ลูกค้าหลายคนมีนำไปใช้ใส่พวกของเบ็ดเตล็ดหรืออุปกรณ์ตกปลาด้วย
แม้จะทำจากพลาสติก แต่ก็เป็นพลาสติกที่แข็งแรงทนทานมากมากกว่าพลาสติกทั่วไป แถมแรงกระทบหรือกระแทกกับของที่ใส่ก็น้อยกว่ากล่องประเภทโลหะ เสียงเครื่องมือกระทบกล่องก็เบาสบายหูกว่ามาก หนา เนื้อเหนียว ไม่แตกง่าย
กล่องเครื่องมือพลาสติกของ SATA ผ่านการทดสอบการตกของ 3M จึงมั่นใจได้ว่าแข็งแรงทนทาน มีล็อกโลหะและหูหิ้ว รองรับน้ำหนักได้ดี วางซ้อนกันได้หลายชั้นอย่างไร้กังวล มี 3 ขนาด ได้แก่
– SATA 05311 กล่องเครื่องมือพลาสติก 15 นิ้ว
– SATA 05312 กล่องเครื่องมือพลาสติก 17 นิ้ว
– SATA 05313 กล่องเครื่องมือพลาสติก 19 นิ้ว
2. กล่องเหล็ก SATA
เป็นประเภทที่แข็งแรงทนทาน กระแทกกี่ครั้งก็ไม่แตก มีที่ล็อกแข็งแรง มีหูหิ้ว
เหมาะใช้เก็บเครื่องมือที่อันตราย มีคมหรือปลายแหลม ซึ่งอาจทำรอยขีดข่วนหรือทำให้กล่องประเภทพลาสติกเสียหาย และมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า เหมาะจะใส่ของที่มีขนาดยาว เช่น ไขควง เหล็กสกัด หรือดอกสว่านต่างๆ
กล่องเครื่องมือนี้ทำจากแผ่นเหล็กเคลือบฟอสเฟตและสังกะสี แข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อนสูง มีหลายแบบหลายขนาด คือ เช่น ขนาด 14 นิ้ว ซึ่งจะยาว 36 ซม. สูง 11.5 ซม. กว้าง 15 ซม. นอกจากนี้ก็ยังมีแบบ 16 นิ้ว และ 20 นิ้วด้วย
3. กล่องหลายชั้น SATA
เป็นประเภทที่มีพื้นที่จัดเก็บเยอะ แถมยังช่วยเรื่องการแบ่งหมวดหมู่หรือประเภทเครื่องมือโดยไม่ต้องใช้หลายๆ กล่อง แยกเก็บหลายที่ เหมาะกับคนที่มีเครื่องมือเยอะ และหาของไม่ค่อยเจอเพราะเก็บไม่เป็นที่ และยังเหมาะกับงานภาคสนาม เพราะเมื่อต้องออกไปทำงานนอกสถานที่ การพกเครื่องมือให้เกินไว้ย่อมดีกว่าขาด กล่องเครื่องมือแบบหลายชั้นช่วยให้ไม่ต้องพกหลายกล่องให้ยุ่งยาก
กล่องเครื่องมือหลายชั้นของ SATA ช่วยแยกพาร์ทิชันเครื่องมือได้ดี โดยเฉพาะของเล็กๆ อย่างลูกบล็อกต่างๆ หรือของที่มีลักษณะยาวและคมอย่างไขควง ผลิตจากเหล็กแผ่นรีดเย็น เคลือบฟอสเฟตและสังกะสี ทนทานต่อการกัดกร่อนสูง มีหูหิ้ว 2 อัน แข็งแรง เคลื่อนย้ายง่าย สะดวก ลักษณะตอนเปิดจะเป็นชั้นแยกออกทั้ง 2 ฝั่ง ยกเว้นชั้นล่างสุด มีให้เลือก 2 ขนาดด้วยกัน คือ
– SATA 95117 กล่องเครื่องมือ 3 ชั้น ยาว 43 ซม. สูง 17.5 ซม. กว้าง 20 ซม.
– SATA 95104A กล่องเครื่องมือ 5 ชั้น ยาว 43 ซม. สูง 20 ซม. กว้าง 20 ซม.
เคล็ดลับการเลือกกล่องเครื่องมือของ SATA
1. เลือกตามวัสดุ : เป็นการเลือกตามความทนทานที่ต้องการ ถ้าต้องการให้ทนทานเป็นพิเศษ สมบุกสมบัน หิ้วไปด้วยได้ทุกที่ ทนน้ำทนไฟ ก็ต้องเลือกแบบที่ทำจากเหล็ก
2. เลือกตามการใช้งาน : ต้องการใช้ใส่เครื่องมือไว้เพื่ออะไร เช่น เพื่อใช้ในครัวเรือน ใช้ใส่เครื่องมือช่างพื้นฐานทั่วไป เช่น ไขควง ตลับเมตร คัตเตอร์ และประแจแค่ไม่กี่ตัว ตัวเลือกกล่องเครื่องมือแบบพลาสติกก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าต้องการใส่เครื่องมือที่มีคม หรือปลายแหลม หรือมีน้ำหนักมาก ก็ควรเลือกที่แข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ แต่หากจะใส่เครื่องมือเยอะๆ หลายประเภท ก็เลือกแบบมีหลายๆ ชั้น จะได้จัดเก็บและหยิบใช้ง่าย
3. เลือกตามเครื่องมือช่างที่มีอยู่ : ถ้าเป็นเครื่องมือช่างทั่วไป ใช้แบบพลาสติกก็เกินพอแล้ว เพราะค่อนข้างแข็งแรง กันน้ำกันฝุ่น แต่ถ้าเป็นเครื่องมือที่มีคม ปลายแหลม สร้างความเสียหายหรือรอยขีดข่วนง่าย และมีน้ำหนักมาก ก็ควรเลือกแบบที่ทำจากเหล็ก หรือถ้าใครมีเครื่องมือเยอะๆ แต่ไม่อยากแยกกล่องก็เลือกแบบที่มีหลายๆ ชั้น ช่วยแยกประเภทเครื่องมือได้สะดวก
นอกจากกล่องเครื่องมือที่กล่าวไปแล้ว SATA ก็ยังมีกระเป๋าใส่เครื่องมือด้วย ซึ่งช่วยให้พกพาได้ง่ายขึ้น รับน้ำหนักมากขึ้น แต่อาจไม่ทนน้ำและสกปรกง่าย เหมาะกับคนลุยๆ ที่ต้องพกเครื่องมือไปที่ต่างๆ มาก และก็ยังมีกล่องเก็บเครื่องมือเฉพาะอย่าง หรือกล่องที่ภายในแบ่งเป็นช่องๆ ด้วย ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกแบบนั้นได้เลย หลากหลายมากๆ
หรือจะเลือกแบบเป็นลิ้นชักก็ได้เช่นกัน โดยลิ้นชักก็มีให้เลือก 3-7 เลยทีเดียว ช่วยแบ่งเป็นสัดส่วนได้ดีมากๆ มีทั้งแบบเปล่าและแบบพร้อมชุดเครื่องมือครบครัน เหมาะกับใครที่มีกิจการใหญ่ๆ ต้องใช้เครื่องมือทุกประเภท
ใครเคยมีหรือใช้กล่องเก็บเครื่องมือแบบไหนอยู่ แล้วรู้สึกยังไง สามารถคอมเมนต์เข้ามาพูดคุยกันได้ จะได้แชร์เรื่องราวดีๆ ให้ช่างด้วยกันฟัง
เช็คราคา กล่องเครื่องมือ SATA ได้ที่นี่
Comments