เครื่องมือช่าง ที่จำเป็น ?
เครื่องมือช่าง อาจมีมากมายหลายประเภท แต่บางอย่างคุณอาจจะต้องการมันเป็นพิเศษ แน่นอนเรากำลังพูดคุยกันถึงเรื่องการใช้งานและความปลอดภัย ดังนั้น เครื่องมือช่างที่เรากำลังจะพูดถึงนี้มันน่าจะเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญลำดับต้นๆที่ ห้องทำงานของคุณจำเป็นต้องมีเพราะหากขาดมันไปแล้วในยามที่เกิดอุบัตติเหตุ หรือ ต้องการใช้งานมัน คุณจะคิดถึงมันแน่นอน
การใช้งาน เครื่องมือช่าง ต้องปลอดภัยก่อน
แน่นอนครับ เครื่องมือช่างนั้นเป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างอันตรายเพราะ ตัวเครื่องมือช่างเองต้องกระทำวัสดุที่แข็ง เช่น เหล็ก ไม้ ปูน ซึ่งวัสดุพวกนี้ แข็งแรงกว่าร่างกายเราแน่นอนดังนั้น เครื่องมือช่างจึงกล่าวได้ว่าเป็นอาวุธดีๆ นี่เองดังนั้นนอกจาก อุปกรณ์ที่คุณจำเป็นต้องมีแล้วเราแนะนำว่า เครื่องมือช่าง และ อุปกรณ์เหล่านี้คุณก็ควรต้องมีติดห้องทำงานของคุณแบบขาดไม่ได้ด้วย
ปากกาจับชิ้นงาน หรือ แคลมป์ (Clamp)
เป็นเครื่องมือที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายตัว “G” ใช้สำหรับ บีบยึดให้วัตถุติดกัน โดยมีขาหรือฟันสำหรับยึดบีบอยู่สองด้าน เป็นเครื่องมือที่มี น้ำหนัก ขาด้านหนึ่งจะเป็นแกนเหล็กที่ไม่สามารถขยับได้ ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเป็นขา ที่ขยับเลื่อนไปมาได้ มีแกนหมุนเป็นเกลียวเหล็กโดยมีด้ามจับทำด้วยไม้ เมื่อหมุน เกลียวจะทำให้ระยะห่างของขายึดหรือฟันทั้งสองด้านเคลื่อนตัวบีบจับชิ้นงาน หรือ ชิ้นวัสดุให้แน่นขึ้น
พบที่ กล่องเครื่องมือช่างก่อสร้าง บริเวณที่ทำงานช่างไ ม้ และรถบรรทุก สินค้า มีขายที่ร้านขายอุปกรณ์สำหรับตกแต่งซ่อมแซมบ้าน และร้านขายอุปกรณ์ เครื่องมือช่าง
การใช้งาน ปากกาจับชิ้นงาน หรือ แคลมป์
ใช้สำหรับจับยึดชิ้นงานให้ติดแน่นกับฐาน หรือกับส่วนใดๆ ตาม ความต้องการ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานมีมือว่างไปใช้เครื่องมือชิ้นอื่น โดยปากกาจับชิ้น งานจะช่วยยึดชิ้นงานเข้าด้วยกัน เช่น ระหว่างที่ต้องรอให้กาวแห้ง ขายึดหรือฟันที่มี อยู่ในเครื่องมือจะช่วยยึดชิ้นงานให้อยู่ในตําแหน่งที่ต้องการ และทำให้ใช้เครื่องมือให้แน่นในแนวขนานหรือไม่ขนานกันก็ได้ ตามความเหมาะสมของงาน ปากกาจับชิ้น งานสำหรับทำงานกรอบรูปภาพ จะยึดโครงกรอบสองด้านเข้าด้วยกันเป็นมุมฉาก เพื่อตอกตะปู ปากกาจับชิ้นงานบางประเภทจะมีฟันชนิดสวนทางสำหรับผลักชิ้นงาน ให้เคลื่อนที่สวนกัน
คำแนะนำ คุณสามารถใช้ปากกาจับชิ้นงานจำนวนเท่าใดก็ได้ไม่จำกัด ซึ่งควรมี อย่างน้อย 2 ตัว
หน้ากากกันฝุ่น (Dust Mask)
เป็นกระดาษหรือผ้ารูปครึ่งวงกลม ทำเป็นรูปถ้วยขนาด ใกล้เคียงกับกำปั้นของคุณ ที่กึ่งกลางของขอบวงกลมด้านตรงข้ามกันทั้งสอง มีสายรัดศีรษะหรือสายยึดเพื่อใช้รัด มีแถบโลหะชิ้นบางๆ ความยาวเท่านิ้วมือติดอยู่ใน แนวขนานกับขอบ สามารถบีบงอให้แถบโลหะนี้กระชับตัวถ้วยเข้ากับใบหน้า โดยบีบ ให้แถบโลหะเข้ากับรูปทรงของจมูก
พบที่ ในงานขัดกระดาษทรายหรือการทาสี มีขายที่ร้านขายสี ร้านขาย อุปกรณ์สำหรับตกแต่งซ่อมแซมบ้าน และร้านขายอุปกรณ์เครื่องมือช่าง โดยความ แข็งของหน้ากากนั้นแตกต่างจากหน้ากากแบบที่ใช้ในโรงพยาบาลซึ่งจะอ่อนกว่า หน้ากากกันฝุ่นนี้เมื่อใช้เสร็จแล้วให้ทิ้งไป ควรใช้เพียงครั้งเดียว
ใช้เมื่อ สวมครอบบริเวณปากและจมูก เพื่อป้องกันฝุ่นที่เกิดจากการขัดไม้ ด้วยกระดาษทราย ทาสี หรือทาเคลือบผนัง หน้ากากแบบธรรมดานั้นไม่สามารถ ป้องกันควันและไอระเหย เช่น จากตัวทำละลายในสี (paint s Ovents) และทินเนอร์ รวมถึงไม่ป้องกันอนุภาคขนาดเล็กที่อาจก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ
ยังใช้ได้กับ เมื่ออัดลงไปในกรวย หน้ากากกันฝุ่นส่วนมากยังใช้กรองวัสดุ แขวนลอยออกจากของเหลวได้
หลักการใช้งาน วัสดุที่ใช้ต้องมีความพรุนมากพอที่จะให้อากาศผ่านได้ เนื่องจากรูพรุนมีขนาดเล็กกว่าขนาดของฝุ่น แต่ไม่ใช่ละอองเล็กๆ ดังนั้นเพื่อ ประสิทธิภาพการใช้งาน ขอบทั้งสองด้านของหน้ากากนิรภัยจะต้องให้สนิทแนบกับปากและ จมูกของผู้สวมใส่ (หากผู้ใช้งานมีเคราจะทำได้ยาก)
ความแตกต่าง ขึ้นอยู่กับตลับกรองที่ติดอยู่บนหน้ากาก ซึ่งอาจเป็นหน้ากาก ป้องกันแก๊สสำหรับใช้งานทางทหาร หรือมีกระป๋องกรองควันและไอระเหย หน้ากาก แบบที่ใช้ในโรงพยาบาลนั้น ใช้งานได้ดีในการป้องกันฝุ่นที่มีอยู่ในบรรยากาศทั่วไป
การใช้งาน หน้ากากกันฝุ่น
1. ใช้แต่หน้ากากของใหม่ โดยดูที่ห่อว่าเหมาะกับการใช้งานป้องกันฝุ่นตาม ที่คุณต้องการหรือไม่
2. สวมหน้ากากให้แนบสนิทกับปากและจมูกของคุณ โดยให้สายยืดรัดรอบ ศีรษะของคุณ ถ้ามีแถบโลหะเล็กๆ บนหน้ากากด้วย กดเพื่อให้มันพอดี เข้ากับความโค้งของจมูก
3. หายใจเป็นปกติเวลาที่สวมใส่หน้ากากระหว่างทำงานที่ต้องสัมผัสกับฝุ่น เมื่อเสร็จงานแล้ว ถอดหน้ากากและทิ้งไป
คำแนะนำเพิ่มเติม หน้ากากกันฝุ่นแบบใช้แล้วทิ้งถือเป็นหลักประกันที่ราคาถูก โปรดมีติด ไว้ในกล่องเครื่องมือเสมอ
ถังดับเพลิง (Fire Extinguisher)
เป็นถังทรงกระบอกสีแดง มีที่จับอยู่ด้านบน และมีสาย สีดําสั้นๆ ห้อยลงมา โดยจะมีสลักโลหะสอดยึดทะลุผ่านมือจับ มีเกจเล็กๆ ที่แบ่ง ออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนสีแดงกับส่วนสีเขียวที่เป็นรูปลิ่มเล็กๆ
พบที่ : ปกติแล้วถังดับเพลิงจะแขวนอยู่กับที่ในระดับเอว สามารถนำลงมา ใช้ได้ง่าย ติดตั้งอยู่ใกล้กับห้องครัว ห้องซักรีด โรงรถ หรือทางออกของห้องทำงาน และอาจพบได้อีกในบริเวณทางเดินนอกห้องนอน หรือแม้แต่ในห้องเก็บเสื้อผ้าเล็กๆ ที่อยู่ในห้องนอน มีขายที่ร้านขายอุปกรณ์เครื่องมือช่าง และร้านขายอุปกรณ์สำหรับ ตกแต่งซ่อมแซมบ้าน ส่วนถัง ที่จับ และลักษณะของหัวฉีดจะมีลักษณะเฉพาะ โดย ปกติจะมีสีแดง แต่ถังดับเพลิงบางชนิดจะมีสีขาวหรือสีเงิน
ใช้เมื่อ ต้องการดับเพลิงที่มีขนาดไม่ใหญ่มากก่อนที่เพลิงจะลามออก และก่อนที่หน่วยดับเพลิงจะมาถึง ถังดับเพลิงอาจช่วยยับยั้งเปลวไฟตามบริเวณทาง ออกได้
หลักการใช้งาน ภายในบรรจุแก๊สที่ไม่เป็นอันตราย เช่น ไนโตรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ ลักษณะถูกอัดไว้ในถังโลหะ และจะถูกปล่อยผ่านโดยจะขับดันโฟมหรือผงเคมีแห้งออกมาพร้อมกัน ถังดับเพลิงสำหรับใช้งานตามบ้าน ส่วนใหญ่จะมีส่วนประกอบของโซเดียมไบคาร์บอเนตหรือแอมโมเนียมฟอสเฟต เป็นผงแห้งที่จะเข้าไปสัมผัสกับส่วนที่เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของส่วนที่เราเห็นเป็น เปลวไฟ
ความแตกต่าง ถังดับเพลิงขนาดเล็กจะมีหัวฉีดติดอยู่กับที่จับ ในขณะที่ ถังที่มีขนาดใหญ่กว่าจะมีสายดับเพลิงสีดํายืดหยุ่นได้ โดยมีความยาวเท่ากับความ ยาวตัวถัง จากข้อกำหนดของสมาคมป้องกันอัคคีภัยแห่งชาติของสหรัฐฯ (National Association for Fire Prevention) ถังดับเพลิงที่ใช้ตามบ้านให้ใช้เรตติ้งต่ำสุด 2 A : 10-B : C ซึ่งหมายถึงว่า สามารถใช้กับเพลิงไหม้ประเภท A (การเผาไหม้ทั่วไป เช่น จากกระดาษ ไม้ และผ้า) ประเภท B (เปลวไฟจากเชื้อเพลิงของเหลว เช่น น้ำมันสำหรับทำอาหาร และน้ำมันเชื้อเพลิง) และประเภท C (เพลิงไหม้ที่เกี่ยวกับ กระแสไฟฟ้า) เครื่องดับเพลิงสำหรับใช้ตามบ้านจะต้องแสดงสัญลักษณ์ A : B : C บนฉลาก ถ้าฉลากที่ติดอยู่ระบุไว้แค่ B : C หรือ A : B เท่านั้น ก็ไม่ควรที่จะเลือก มาใช้ ส่วนตัวเลขแสดงเรตติ้งไม่เชิงเป็นการบอกขนาด แต่เป็นการเปรียบเทียบให้ คุณเห็นถึงประสิทธิภาพของเครื่องดับเพลิงว่า ดับเพลิงได้หลายชนิดเท่านั้น โดย ตัวเลขยิ่งมากก็จะยิ่งดี
ข้อควรคำนึงด้านความปลอดภัย เมื่อถังดับเพลิงเสีย ความดันจะลดลง ทำให้การใช้งานได้ไม่มีประสิทธิภาพ โดยเกจวัดจะเป็นเครื่องชี้บอก ถ้าเข็มไม่อยู่ใน เขตพื้นที่สีเขียวต่อไป คุณจะต้องนำถังไปเติมหรือเปลี่ยนใหม่
การใช้งาน ถังดับเพลิง
1. โทร.เรียก 199 และเริ่มต้นอพยพ
2. ถ้าคุณไม่ทราบตําแหน่งระหว่างจุดที่เกิดเพลิงไหม้กับทางออกของอาคาร อย่าพยายามดับไฟ
3. ยกถังดับเพลิงและดึงสลักนิรภัยออกจากที่จับ
4. เล็งหัวฉีดของถังดับเพลิงไปที่ฐานหรือต้นกำเนิดเปลวเพลิง และบีบที่จับ เพื่อปล่อยสารดับไฟออกมา
5. สายลําของสารดับไฟไปมาจากข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่ง ในแนวฐานหรือ ต้นกำเนิดเปลวเพลิง จนกระทั่งถังดับเพลิงว่างเปล่า
6. แม้ว่าคุณจะสามารถดับไฟได้ แต่อย่ายกเลิกการติดต่อกับหน่วยงานดับ เพลิง เพื่อการยืนยันว่าไฟนั้นได้ดับลงไปแล้วจริง
7. ถ้าใช้ถังดับเพลิงแล้วยังไม่สามารถดับไฟได้ ให้ออกจากอาคารโดยเร็ว ที่สุดและรออยู่ด้านนอก เพื่อให้หน่วยงานดับเพลิงมาถึง
8. เมื่อวิกฤตการณ์ผ่านพ้นไป เปลี่ยนสารในถังหรือนำถังใหม่มาเปลี่ยน ให้ ติดตั้งไว้ที่ที่แขวนบนกำแพง
คำแนะนำเพิ่มเติม ติดตั้งถังดับเพลิงที่มีเรตติ้งอย่างต่ำ 2-A : 10-B : C ที่บริเวณใกล้ กับทางออกจากห้องครัว ถังหนึ่งไว้ที่ทางออกจากห้องซักรีด อีกถังหนึ่งไว้ ที่โรงรถหรือพื้นที่ทำงานในบ้าน อีกถังหนึ่งไว้ในห้องเล็กหรือบนทางเดินที่ อยู่ใกล้กับห้องนอน และอีกถังไว้ในรถของคุณ
ถังบรรจุน้ำมัน (Gasoline Can)
เป็นถังสีแดงแข็งแรง ส่วนบนมีมือจับสำหรับถือนิ้ว มีช่อง ใส่น้ำมันขนาดเท่ากำปั้น และมีช่องหรือพวยสำหรับเทน้ำมันออกจากถังลักษณะอ้วน สั้น ทั้งสองเป็นฝาเกลียว ถังน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นโลหะจะทนทานกว่าแบบพลาสติก
พบที่ โรงรถและพื้นที่เก็บเครื่องมือ มีขายที่ร้านขายอุปกรณ์เครื่องมือช่าง และร้านขายชิ้นส่วนรถยนต์ ถังสีแดงสำหรับใส่น้ำมันแก๊สโซลีน (เบนซิน) เพื่อแยก ความแตกต่างระหว่างถังสีน้ำเงินซึ่งสำหรับใส่น้ำมันก๊าด
ใช้เมื่อ สำหรับเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับอุปกรณ์ที่ใช้น้ำมันดังกล่าวเป็น เชื้อเพลิง เช่น เครื่องตัดหญ้า เครื่องเป่าลมไล่ใบไม้ เลื่อยยนต์ หรือยานพาหนะที่ ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงขับเคลื่อน แต่อย่างไรก็ตาม น้ำมันเชื้อเพลิงจะเสื่อมสภาพได้ใน ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ดังนั้นอย่าเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงไว้มากกว่าที่คุณต้องการ ใช้ในสภาวะเร่งด่วน
ยังใช้ได้กับ ไม่สามารถใช้งานในลักษณะอื่นได้ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ร้าย แรงที่อาจเกิดขึ้น อย่านำถังน้ำมันเชื้อเพลิงไปใส่อย่างอื่น และอมันเชื้อเพลิงเองก็ ห้ามนำไปใส่ในภาชนะอื่น นอกเหนือจากถังน้ำมันสีแดง
ความแตกต่าง ถังน้ำมันมีหลายขนาดตั้งแต่ 1 แกลลอน (3.8 ลิตร หรือ มีขนาดประมาณ 2 เท่าของศีรษะ) ไปจนถึง 5 แกลลอน (19 ลิตร หรือมีขนาด ประมาณลําตัว) บางรุ่นมีท่อน้ำมันลักษณะเป็นเกลียวยาว
ข้อควรคำนึงด้านความปลอดภัย เนื่องจากน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถระเหย ได้ ดังนั้นจึงไม่ควรเก็บถังน้ำมันไว้ในตัวบ้านหรือโรงรถที่เชื่อมต่อถึงบ้าน หรือแม้แต่ การเก็บไว้ในรถหรือภายใต้แสงแดดจัด ให้เก็บไว้ในโรงรถที่อยู่แยกหรือใต้ร่มเงาในสวน
การใช้งาน ถังบรรจุน้ำมัน
1. นำถังน้ำมันไปยังเครื่องมือที่ต้องการเติมน้ำมัน โดยให้เติมในพื้นที่โล่ง ด้านนอกอาคาร อากาศถ่ายเทได้สะดวก
2. เปิดฝาเติมน้ำมันของเครื่องมือ
3. เปิดฝาท่อน้ำมันบนถัง
4. คลายฝาที่ใหญ่กว่าออก เพื่อให้อากาศสามารถเข้าไปได้ มิฉะนั้นน้ำมัน อาจกระฉอกออกมาได้
5. ยกกระป๋องและวางตําแหน่งปลายท่อหรือปลายพวย ให้อยู่เหนือตําแหน่ง ช่องเติมน้ำมันของเครื่องมือ
6. เอียงกระป๋องจนกระทั่งน้ำมันไหลเข้าไปในเครื่องมือ บางครั้งขนาดของ ท่อน้ำมันกับเครื่องมืออาจไม่เข้ากัน ให้ใช้กรวย
7. วางถังน้ำมันลงบนพื้นราบ ปิดฝาช่องเติมน้ำมันของเครื่องมือ และปิดฝา ถังน้ำมันทั้งสองฝา
คำแนะนำเพิ่มเติม ถ้าคุณมีเครื่องมือที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง คุณก็จำเป็นต้องมีถังน้ำมันด้วย
ถุงมือ (Gloves)
ทำจากผ้า หนัง ยาง หรือไวนิล เพื่อใช้คลุมมือและ ข้อมือ มีขนาดเข้ากับนิ้วมือตั้งแต่หัวแม่มือจนถึงนิ้วก้อย ถุงมือเป็นอุปกรณ์ความ ปลอดภัยที่มีความสำคัญ ที่ช่วยปกป้องผิวหนังจากการเสียดสีทางกายภาพจาก เครื่องมือ และจากวัตถุต่างๆ หรือผลกระทบจากสารเคมี เช่น ตัวทำละลายหรือสาร ทำความสะอาด
พบที่ กล่องเครื่องมือ โรงรถ พื้นที่ทำงาน หรือตู้ใส่ของ มีขายที่ร้านขาย อุปกรณ์เครื่องมือช่าง ร้านขายยา และร้านขายอุปกรณ์สำหรับตกแต่งซ่อมแซมบ้าน ถุงมือสำหรับใส่ทำงานที่เป็นหนังและผ้า จะแตกต่างจากถุงมือแฟชั่นตรงที่มีเนื้อหนา กว่า และจะมีขนาดไม่พอดีกับมือ ถุงมือยางที่ใช้ซ้ำได้จะแยกความแตกต่างได้ที่ ความพอดี สีสันสดใส (ปกติจะมีสีเหลือง ชมพู หรือน้ำเงิน) และความยาวตั้งแต่ช่วง กลางแขนไปจนถึงปลายแขน สำหรับถุงมือยางที่ใช้แล้วทิ้งกับถุงมือไวนิล จะขายใน รูปแบบที่พอดีกับขนาดของมือ มีลักษณะบางและโปร่งแสง
ใช้เมื่อ ต้องการปกป้องมือจากอันตรายทั้งทางกายภาพและทางเคมี แรง กระทำจากการใช้อุปกรณ์ที่มือจับจะถูกับมือด้วยเช่นกัน ทำให้ผิวหนังเกิดการพอ เป็นแผล และในที่สุดก็จะกลายเป็นหนังด้าน สารละลายเคมีที่ใช้ทำความสะอาด หากสัมผัสกับผิวหนังอาจทำให้ผิวหนังที่มือระคายเคือง สารละลายบางตัวเป็นกันคือ เมธิลแอลกอฮอล์ จะทำลายความชุ่มชื้นบนผิวหนัง ในขณะที่สารละลายตัว อื่นๆ เช่น ตัวกำจัดไขมัน ทินเนอร์ แล็กเกอร์ อะซีโตน และคีโต สามารถทำลายชั้น ไขมันจากเนื้อของคุณได้ (แต่ไม่สามารถทดแทนการควบคุมอาหาร หรือการออก กำลังกายเพื่อการลดน้ำหนัก) การปกป้องที่ดีที่สุดจากสารเคมีและสารละลายคือ การใช้ถุงมือที่ของเหลวไม่สามารถซึมผ่านได้ ซึ่งทำจากไวนิลหรือยาง นอกจากนี้ยัง ช่วยปกป้องมือจากสีและสารเคลือบเงา
ยังใช้ได้กับ เพิ่มความอบอุ่นในฤดูหนาว สำหรับถุงมือไวนิลและยาง ยัง ป้องกันสิ่งที่ปนมากับเลือดขณะทำการปฐมพยาบาลผู้ป่วยได้ด้วย
ความแตกต่าง ถุงมือใช้งานบางประเภทจะมีปุ่มพลาสติกหรือปุ่มยางบน ผิวสัมผัส เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการหยิบจับ บางชนิดมีฉนวนบุ เหมาะสำหรับ ใช้จับวัสดุที่มีความร้อน บางชนิดถักด้วยเส้นใยเคฟลาร์ (Kevlar) ซึ่งมีความทนทาน มากพอที่จะป้องกันคมมีดได้ ผู้ใช้บางคนอาจมีอาการแพ้ถุงมือยาง ซึ่งควรเลือก ถุงมือที่ทำจากไวนิลแทน
การใช้งาน ถุงมือ
1. เลือกถุงมือทำงานคู่ที่สวมใส่สบายเหมาะกับมือของคุณ และมีคุณสมบัติ ในการป้องกันที่เข้ากันกับลักษณะงานที่คุณทำอยู่
2. สวมถุงมือก่อนทำงาน
3. เมื่อเสร็จงาน ถอดถุงมือออก ถ้าเป็นแบบใช้แล้วทิ้ง อย่าเก็บไว้ แต่ถ้าเป็น แบบใช้ซ้ำต้องล้างทำความสะอาด และตากให้แห้ง ถุงมือยางไม่ควรนำไป ตากแดดจัดๆ
คำแนะนำเพิ่มเติม อย่างน้อย 1 คู่สำหรับถุงมือผ้าหรือถุงมือหนัง และอย่างน้อยอีก 1 คู่สำหรับถุงมือยาง รวมทั้งมีถุงมือไวนิลแบบใช้แล้วทิ้งอีก 1 ห่อ
ที่ครอบหู (Hearing Protectors)
มีลักษณะคล้ายรูปถ้วย 2 อันขนาดเท่ากำมือ โดยมี ขนาดความยาวเท่ากับประมาณไข่ไก่ผ่าครึ่ง ต่อกันด้วยแถบที่ปรับระยะได้ ใช้สวม ทับหูเพื่อป้องกันอันตรายจากเสียงดังหรือเสียงรบกวน ถ้วยแต่ละข้างจะบุด้วยวัสดุ อ่อนนุ่มที่เข้ากับรูปทรงของศีรษะ
พบที่ โรงรถหรือพื้นที่ทำงานที่อยู่ใกล้เสียงรบกวนจากเครื่องมือไฟฟ้า หรือ เครื่องมือที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง มีขายที่ร้านขายอุปกรณ์สำหรับตกแต่งซ่อมแซมบ้านและร้านขายอุปกรณ์เครื่องมือช่าง
ใช้เมื่อ ปกป้องจากอันตรายที่มีต่อการได้ยินของผู้ใส่ ด้วยการกันเสียงที่มี ความเข้มสูงที่จะไปทำอันตรายต่ออวัยวะที่ละเอียดอ่อนภายในรูหู เสียงที่มีความ เข้มสูงสามารถทำให้เกิดอาการหูหนวกบางส่วน และยังทำอันตรายต่อหูได้อย่างถาวร
ยังใช้ได้กับ ป้องกันเสียงที่สะท้อนไปมาจากลําโพงในคอนเสิร์ตเพลงร็อค หรือทำให้ใบหูอบอุ่นในฤดูหนาว
ความแตกต่าง ที่อุดหูขนาดเล็กทำจากโฟมก็ใช้งานได้ดี เช่นเดียวกับหมวกกันน็อค ของรถจักรยานยนต์ที่มาพร้อมกับที่ปิดหู ที่อุดหูที่ใช้กันเสียงสำหรับผู้ที่ เดินทางด้วยเครื่องบินขณะหลับนั้น ไม่พอเพียงกับการป้องกันเสียงดัง
การใช้งาน ที่ครอบหู
1. เลือกอุปกรณ์ป้องกันเสียงที่เหมาะสมกับอัตราความเข้มของเสียงที่คุณ คาดว่าจะต้องเจอ เครื่องป้องกันบางชนิดจะดีกับเสียงที่มีพลังงานมาจาก อุปกรณ์ไฟฟ้า ในขณะที่บางประเภทก็ถูกออกแบบมาสำหรับเสียงคำราม ต่ำๆ จากเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน อุปกรณ์ป้องกันเสียงจึงแตกต่างกันไป ตามความสามารถในการป้องกัน
2. ก่อนที่จะเปิดเครื่องจักรที่เป็นแหล่งกำเนิดเสียง ให้ใส่เครื่องป้องกันเสียง จนกระทั่งด้านที่อ่อนนุ่มของถ้วยนั้น ครอบคลุมส่วนหูได้ทั้งหมด ปรับ แถบที่เชื่อมทั้งสองข้างจนกระทั่งถ้วยทั้งสองสวมใส่ได้กระชับเหนือศีรษะ ของคุณ ไม่ใช่รอบคอหรือด้านหลังของศีรษะ ถ้าคุณต้องการใส่หมวกด้วย ให้ใส่เครื่องป้องกันเสียงก่อน จากนั้นจึงใส่หมวก และต้องมั่นใจว่าอยู่นอก ที่ป้องกันหูทั้งหมด
3. ทำงานกับเครื่องมือที่มีเสียงดัง
4. ทันทีที่ปิดการทำงานของเครื่องมือ ให้นำเครื่องป้องกันเสียงออก แล้วเก็บ ไว้ในที่ที่สามารถหาเจอได้ง่าย
คำแนะนำเพิ่มเติม มีเครื่องป้องกันเสียง 1 คู่ที่ใส่สบาย และอาจมีไว้สำรองสำหรับแขก ที่มาเยือนด้วยก็ได้
มีดพก (Pocketknife)
เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็ก ความยาวประมาณเท่านิ้วมือ ประกอบด้วยที่จับพลาสติกหรือโลหะ และใบมีดโลหะคมที่มีสลักเดือยยึด ดังนั้น ใบมีดจะสามารถพับเก็บเข้าไปในด้ามจับได้ มีดพกที่เป็นอุปกรณ์ยอดนิยมจะเป็น ของกองทัพบกสวิส (Swiss Army) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่หาได้ทั่วไป
พบที่ กระเป๋ากางเกง กล่องเครื่องมือ หรือกระเป๋าถือ มีขายที่ร้านขายมีด หรือขายอุปกรณ์หนัก แยกความต่างของมีดพับจากเครื่องตัดชนิดอื่นๆ ได้ด้วย ขนาดที่เล็กของมันและการพับเก็บได้
ใช้เมื่อ ต้องการตัดหรือหันวัตถุเป็นชิ้นๆ มีดพับเป็นอุปกรณ์ที่พกพาสะดวก คนที่เตรียมพร้อมน้อยคนมากที่จะแต่งตัวเรียบร้อย พร้อมออกจากบ้านโดยไม่มีมีด พับเก็บอยู่ในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋าถือ เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องหยิบทุกเช้าเช่น เดียวกับแว่นตากันแดด กระเป๋าสตางค์ และกุญแจด้วยความที่เป็นอุปกรณ์ที่ไม่เข้าข่ายความปลอดภัยมากเท่าใดนัก มีดพับช่วยให้ใช้งานได้สะดวกในสภาวะฉุกเฉิน ที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ยังใช้ได้กับ ทำความสะอาดเล็บมือ ใช้เปิดกล่องที่ติดเทปไว้ ใช้เปิดถุง พลาสติก และเปิดกล่องซีดีที่เปิดยาก ใช้นั่นอาหารเป็นชิ้นๆ เมื่อไปปิกนิก ใช้ทำ เครื่องหมายลงบนไม้ พลาสติก และโลหะ เอาเบ็ดออกจากปลา และทำปลา ตัด – เชือกที่ยุ่งเหยิง ทำฟืนจากเศษไม้ เหลาแท่งไม้ หรือเหลาดินสอ
ความแตกต่าง มีดพับหลายแบบมีกลไกล็อค ใบมีดจะไม่พับมาบาดนิว ผู้ใช้ มีดพับบางประเภทมีการตกแต่งด้วยอัญมณีที่มีลวดลายละเอียดซับซ้อนและ มีคุณค่า โดยอาจมีด้ามจับเลี่ยมทอง สลัก หรือฝังชื่อย่อด้วยแผ่นเงิน และประดับ มุกที่ด้ามจับ มีดพับที่รู้จักกันในนามมีดพับของกองทัพบกสวิส มีใบมีดสำหรับใช้ งานเฉพาะและอุปกรณ์อื่นๆ ประกอบอยู่ด้วย เช่น แหนบหรือคีม ใบเลื่อย ที่เปิดขวด และแว่นขยาย มีดที่ใช้เล็มและตัดตาต้นไม้ของชาวสวนจะมีใบมีดด้านเดียว โดยมี ปลอกที่เลื่อนได้เพื่อป้องกันไม่ให้เปิดออก ที่เปิดจุกขวด ส่วนครอบสลักยึดใบมีด ร่องเกี่ยวดึงใบมีด
การใช้งาน มีดพก
1. ใช้นิ้วมือกางอุปกรณ์ที่จำเป็นออก
2. ใช้มีดตามต้องการ
3. พับเก็บและนำกลับไปเก็บในกระเป๋า
คำแนะนำเพิ่มเติม ตัดสินใจซื้อมีดพับอันเล็กขนาดที่คุณชอบและคิดว่าจะพกพาติดตัวไป ด้วยตลอดเวลา
แว่นตานิรภัย (Safety Glasses)
เป็นพลาสติกแข็ง แบบใส ยึดกับกรอบที่ยืดหยุ่นได้ ซึ่งทำจากพลาสติกชนิดเนื้อนิ่ม มีสายยึดเชื่อมจุด 2 จุด กรอบพลาสติกที่ยืดหยุ่น ได้โดยปกติจะโปร่งใส และมีรูสำหรับระบายอากาศ แว่นตานิรภัยส่วนมากจะมี ขนาดใหญ่พอที่จะปิดครอบแว่นตาธรรมดาได้ทั้งหมด
พบที่ บริเวณใกล้กับเครื่องจักรหรือของเหลวที่มีอันตราย มีขายที่ร้านขาย มีดหรือขายอุปกรณ์เครื่องมือช่าง และร้านขายอุปกรณ์สำหรับตกแต่งซ่อมแซมบ้าน สามารถแยกความแตกต่างออกจากแว่นตาว่ายน้ำได้ตรงที่ แว่นตาว่ายน้ำจะไม่พอดี กับการครอบทับแว่นธรรมดา และไม่ป้องกันการแตกกระจายของวัสดุ
ใช้เมื่อ ป้องกันการบาดเจ็บของดวงตาจากการกระเด็นของของเหลว หรือ เศษวัตถุชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่กระเด็นมา อันเกิดจากการใช้เครื่องมือและเครื่องจักร การตอกและการใช้อุปกรณ์อื่นๆ หรือแม้แต่ชิ้นส่วนโลหะทุกประเภทก็มีโอกาสที่จะ มีเศษเล็กๆ กระเด็นออกมา การทำงานจะไม่ปลอดภัย หากปราศจากแว่นตานิรภัย ในขณะทำงาน
หลักการใช้งาน อนุภาคของแสงสามารถผ่านพลาสติกใสได้อย่างง่าย – ขณะที่เศษวัตถุเล็กๆ กระเด็นมาโดนพลาสติกก็จะกระดอนกลับไป
ความแตกต่าง แว่นตาที่ตัดโดยจักษุแพทย์สามารถเป็นแว่นนิรภัยได้ หาก พลาสติกที่ใช้เป็นแบบป้องกันการแตกกระจาย และมีส่วนเสริมที่ช่วยป้องกันด้าน ข้าง อย่างไรก็ตาม แว่นตาไม่มีส่วนป้องกันการกระเด็นของของเหลว บางคนจึงชอบ มากกว่าที่จะใส่เครื่องป้องกันแบบเต็มหน้า โดยสามารถปรับที่สายรัดศีรษะให้กระชับ หากไม่มีแว่นตานิรภัย ก็ไม่ควรที่จะใช้แว่นสำหรับใส่กันแดดมาใส่แทน
การใช้งาน แว่นตานิรภัย
1. เลือกแว่นตานิรภัยที่พอดีกับใบหน้า (และสวมทับแว่นตาคุณได้พอดีถ้า คุณใส่แว่น) เช่นเดียวกับลักษณะการทำงาน
2. ก่อนเริ่มงานที่อาจมีของเหลวหรือเศษเล็กๆ กระเด็นมา ให้ใส่แว่นตา นิรภัยก่อน ปรับให้สบาย และมั่นใจว่าจะยังอยู่บนใบหน้าระหว่างที่คุณ ต้องทำงานง่วนอยู่
3. เมื่อเสร็จงาน ถอดแว่นตานิรภัยออก ล้าง และเก็บไว้ใช้งานครั้งต่อไป
หมายเหตุ ถ้าแว่นตานิรภัยขนาดเล็กของคุณมีฝ้าขณะใช้ ให้ลองใช้แบบ ชนิดคลุมปิดเต็มหน้าดู
คำแนะนำเพิ่มเติม ควรมีแว่นตานิรภัยอย่างน้อย 1 อันที่พอดีกับใบหน้า และใส่สบาย แม้ว่าจะไม่จำเป็นมากนักก็ตาม
รองเท้าบู๊ตทำงาน (Work Boots)
เป็นรองเท้าหนังชนิดหุ้มข้อ ผูกเชือกและมีหนังหนา ปกติมีสีน้ำตาลเข้ม พื้นรองเท้ามีดอกยางลึกเหมือนกับรองเท้าทั่วไป รองเท้าบู๊ต ใส่ทำงานจะป้องกันเท้าของคุณ แต่ไม่เหมือนกับรองเท้าธรรมดาทั่วไป รองเท้าถูก ออกแบบมาเพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้นกับเท้า และนิ้วเท้าของคุณ
พบที่ โรงรถ พื้นที่ทำงาน ตู้รองเท้า หรือห้องเก็บเสื้อโค้ต มีขายที่ร้านขาย รองเท้า แยกความแตกต่างระหว่างรองเท้าบู๊ตปีนเขา บู๊ตยางใส่ลุยน้ำ และผู้ตแฟชั่น จากลักษณะพื้นรองเท้าที่เรียบและร่องพื้นที่ลึก
ใช้เมื่อ ปกป้องเท้าผู้ทำงานจากการหล่นใส่ของเครื่องมือ การลื่นไถลบนพื้น หรือจากเครื่องตัดที่ไปผิดทาง เพื่อป้องกันเท้าของผู้ทำงานบาดเจ็บ ถ้าเท้าคุณบาดเจ็บหรือขาดหายไป คุณย่อมใช้เครื่องมืออื่นๆ ได้ไม่มีประสิทธิ์ ภาพ มีกิจกรรมหลายอย่างที่ต้องใช้อุปกรณ์ที่เท้าของผู้ใช้งานซึ่งต้องมีส่วนร่วมด้วย โดยตรง (เช่น ขุดหลุม ที่ต้องใช้เท้าช่วยเกลี่ยดิน) หรือกิจกรรมอื่นๆ (การเคลื่อน ย้ายท่อนไม้ หรือการแกะสลักไม้) เท้าจะอยู่ในตําแหน่งที่เสี่ยง รองเท้าบู๊ตทำงานควร สวมใส่สบาย และเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความปลอดภัย
ยังใช้ได้กับ ปกป้องกันการลื่นหกล้ม รองเท้าบู๊ตทำงานสีน้ำตาลเข้มและ พื้นรองเท้าสีอ่อน จะไม่ทิ้งรอยคราบดําไว้บนพื้นไม้ที่เพิ่งปูใหม่
ความแตกต่าง รองเท้าบู๊ตใส่ทำงานบางประเภทจะมีส่วนคลุมนิ้วเท้า ซึ่งเป็น แผ่นเหล็กอยู่ด้านใน เหมาะมากสำหรับการทำงานกับเลื่อยไฟฟ้าหรือเลื่อยวงเดือน หากไม่มีรองเท้าบู๊ตทำงานดังกล่าวแล้ว ให้เลือกรองเท้าบู๊ตสำหรับขับขี่รถมอเตอร์ ไซค์ และรองเท้าบู๊ตของทหารที่เป็นหนังแข็ง หรือแม้แต่รองเท้าผ้าใบก็ยังดีกว่าสวม ใส่รองเท้าแตะ
การใช้งาน รองเท้าบู๊ตทำงาน
1. เลือกรองเท้าบู๊ตใส่ทำงานที่พอดีและเหมาะกับงานที่จะทำ
2. ใส่ถุงเท้าก่อนใส่รองเท้า และมัดเชือกรองเท้าให้แน่น
ข้อควรระวัง รองเท้าบู๊ตหนังไม่เหมาะสำหรับใช้งานในที่เปียกแฉะ หรืออยู่ในน้ำ ถ้าต้องใช้ควรใช้รองเท้าบู๊ตที่ทำจากยางแทน
คำแนะนำเพิ่มเติม ควรมีรองเท้าบู๊ตทำงานหนังสีน้ำตาลเข้มที่มีหัวเป็นเหล็กอย่างน้อย 1 คู่
เครื่องมือช่าง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ iTOOLMART
Comments