in

ทำไม “เคเบิลไทร์” ถึงเปราะง่าย? สาเหตุและการเลือกซื้อที่ถูกต้อง!

คุณเคยเจอไหมคะ เคเบิลไทร์ หรือ “หนวดกุ้ง” ที่รัดของไว้ดีๆ แล้วพอผ่านไปสักพัก มันก็เปราะ กรอบ แตกหักง่ายๆ เลย ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้ไปทำอะไรมันเลย? หรือบางทีแค่ดึงนิดเดียวก็หักแล้ว? ปัญหา เคเบิลไทร์เปราะง่าย เนี่ย เป็นเรื่องที่เจอกันบ่อยนะคะ โดยเฉพาะกับเคเบิลไทร์พลาสติกที่ใช้กันทั่วไป

อาการแบบนี้เนี่ย นอกจากจะทำให้เราหงุดหงิด ต้องคอยรัดใหม่แล้ว ยังทำให้ของที่เราจัดเก็บไว้หลุดหลวม ไม่เป็นระเบียบ ที่สำคัญกว่านั้น ถ้ามันใช้รัดสายไฟสำคัญๆ แล้วเปราะแตกเนี่ย อาจนำไปสู่ปัญหาไฟฟ้าได้เลยนะคะ

วันนี้เราจะมาคุยกันว่า ทำไมเคเบิลไทร์ถึงเปราะง่าย อะไรคือสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้มันเป็นแบบนั้น และที่สำคัญที่สุดคือ เราจะมีวิธีเลือกซื้อ เคเบิลไทร์ ยังไงให้ถูกต้อง ใช้งานได้ทนทาน ไม่เปราะง่ายๆ ให้คุณหมดห่วงค่ะ

“เคเบิลไทร์” คืออะไร? (แบบที่เราคุ้นเคยกัน)

สำหรับใครที่อาจจะยังไม่รู้จักดีนัก เคเบิลไทร์ ก็คือสายรัดพลาสติกเส้นเล็กๆ ที่มีฟันเลื่อยและหัวล็อกในตัว เราใช้มันสำหรับรัดสายไฟ รัดปากถุง จัดระเบียบของต่างๆ ให้เป็นระเบียบ หรือยึดสิ่งของเข้าด้วยกันค่ะ เคเบิลไทร์พลาสติก ส่วนใหญ่ที่เราใช้กันเนี่ย มักจะทำมาจากพลาสติกที่เรียกว่า “ไนลอน 6/6” (Nylon 6/6) ซึ่งเป็นพลาสติกที่มีความแข็งแรง ยืดหยุ่น และเป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดี

ทำไม “เคเบิลไทร์” ถึงเปราะง่าย? สาเหตุหลักๆ ที่ต้องรู้!

สาเหตุที่ทำให้ เคเบิลไทร์พลาสติก เปราะง่ายเนี่ย ส่วนใหญ่แล้วมักจะมาจากปัจจัยเหล่านี้ค่ะ

1. โดนแสงแดดโดยตรง (รังสี UV) – ตัวการอันดับหนึ่งเลย!

นี่คือสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดและเป็นตัวการหลักเลยค่ะ โดยเฉพาะ เคเบิลไทร์สีขาว หรือสีอ่อนๆ ที่เราเอาไปใช้กลางแจ้ง

  • รังสี UV ทำลายพลาสติก: แสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่สามารถทำลายโครงสร้างทางเคมีของพลาสติกไนลอนได้ค่ะ พอโดนแสงแดดนานๆ เข้า พลาสติกก็จะเริ่มเสื่อมสภาพ สูญเสียความยืดหยุ่น กลายเป็นแข็งและเปราะแตกง่ายในที่สุด เหมือนกับพลาสติกอื่นๆ ที่โดนแดดแล้วกรอบนั่นแหละค่ะ

2. อุณหภูมิที่สูงเกินไป หรือต่ำเกินไป

  • ความร้อนสูง: ถ้า เคเบิลไทร์ ไปอยู่ในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงมากๆ เช่น ใกล้เครื่องยนต์ ท่อไอเสีย หรือในตู้ไฟฟ้าที่มีความร้อนสูงๆ เป็นเวลานาน พลาสติกไนลอนก็จะเริ่มอ่อนตัว เสียรูปทรง และเมื่อเย็นลงก็จะแข็งตัวผิดปกติ ทำให้เปราะง่ายขึ้นค่ะ
  • ความเย็นจัด: ในทางกลับกัน ถ้า เคเบิลไทร์ ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิต่ำมากๆ ติดลบมากๆ พลาสติกก็จะแข็งตัวและเปราะได้ง่ายขึ้นค่ะ เมื่อได้รับแรงกระแทกเพียงเล็กน้อยก็อาจแตกหักได้เลย

3. สัมผัสกับสารเคมีบางชนิด

  • พลาสติกไนลอน 6/6 แม้จะทนทานพอสมควร แต่ก็มีสารเคมีบางชนิดที่สามารถทำลายโครงสร้างของมันได้ค่ะ เช่น กรดเข้มข้น ด่างเข้มข้น หรือสารทำละลายบางประเภท ถ้า เคเบิลไทร์ ไปสัมผัสกับสารเหล่านี้บ่อยๆ หรือเป็นเวลานาน ก็จะทำให้มันเสื่อมสภาพเร็วและเปราะง่ายค่ะ

4. คุณภาพของวัสดุและการผลิต (ของที่ไม่ได้มาตรฐาน)

  • พลาสติกรีไซเคิล หรือไม่ได้คุณภาพ: เคเบิลไทร์ ที่ราคาถูกมากๆ บางทีอาจจะทำมาจากพลาสติกรีไซเคิล หรือพลาสติกที่ไม่ได้คุณภาพ ไม่มีสารป้องกันการเสื่อมสภาพที่เพียงพอ ทำให้มันเปราะง่ายตั้งแต่แรก หรือเสื่อมสภาพเร็วผิดปกติแม้จะใช้งานในสภาพแวดล้อมปกติก็ตาม
  • กระบวนการผลิตไม่ดี: ถ้ากระบวนการผลิตไม่ดี ทำให้โครงสร้างของ เคเบิลไทร์ ไม่แข็งแรงสม่ำเสมอ ก็อาจจะทำให้บางจุดเปราะบางกว่าจุดอื่น และแตกหักได้ง่ายค่ะ

5. การจัดเก็บที่ไม่ถูกต้อง

  • แม้แต่ตอนที่เรายังไม่ได้ใช้ เคเบิลไทร์ ถ้าเราจัดเก็บไม่ดีก็มีผลนะคะ เช่น เก็บไว้ในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรง อุณหภูมิสูง หรือมีความชื้นสูง ก็อาจทำให้มันเสื่อมสภาพและเปราะก่อนที่เราจะได้เอาไปใช้งานด้วยซ้ำค่ะ

เลือกซื้อ “เคเบิลไทร์” ยังไงให้ถูกต้อง ไม่เปราะง่ายๆ!

เมื่อรู้สาเหตุแล้ว ทีนี้เราก็สามารถเลือกซื้อ เคเบิลไทร์ ให้ถูกต้องและเหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อยืดอายุให้มันอยู่กับเราไปได้นานๆ ค่ะ

1. สำคัญที่สุด! เลือก “เคเบิลไทร์” ที่มีสารป้องกันรังสี UV สำหรับงานกลางแจ้ง

  • สังเกตสี: สำหรับงานกลางแจ้งที่โดนแดด คุณต้องเลือก เคเบิลไทร์สีดำ เท่านั้นค่ะ เพราะ เคเบิลไทร์สีดำ เนี่ย เขาจะผสมสาร “คาร์บอนแบล็ค” (Carbon Black) เข้าไป ซึ่งเป็นสารที่ช่วยป้องกันรังสี UV ได้ดีเยี่ยมค่ะ ทำให้มันทนแดด ทนฝน และไม่เปราะง่ายๆ เลย
  • อ่านฉลาก: มองหาคำว่า “UV Resistant” หรือ “Outdoor Use” บนบรรจุภัณฑ์ด้วยนะคะ จะได้มั่นใจว่าเป็นชนิดที่ทนแดดจริงๆ

2. เลือก “เคเบิลไทร์” ให้เหมาะกับอุณหภูมิ

  • เช็กสเปกอุณหภูมิ: ถ้างานของคุณอยู่ในบริเวณที่ร้อนจัด หรือเย็นจัด ควรตรวจสอบสเปกของ เคเบิลไทร์ ว่าสามารถทนอุณหภูมิในช่วงนั้นๆ ได้หรือไม่
  • พิจารณาเคเบิลไทร์สเตนเลส: ถ้าต้องใช้ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิสุดขีดจริงๆ (เช่น ใกล้เตาหลอม หรือในห้องเย็นจัดๆ) เคเบิลไทร์สเตนเลส คือคำตอบที่ดีที่สุดค่ะ เพราะมันทนอุณหภูมิได้สูงกว่าพลาสติกมากๆ

3. เลือก “เคเบิลไทร์” ที่มีคุณภาพดี ไม่ใช่แค่ราคาถูก

  • เลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ: ซื้อจากยี่ห้อที่เป็นที่รู้จัก หรือจากร้านค้าที่ไว้ใจได้นะคะ เพราะยี่ห้อดีๆ เขาจะใช้วัสดุ “ไนลอน 6/6 บริสุทธิ์” คุณภาพสูง และมีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ทำให้ เคเบิลไทร์ มีความแข็งแรงสม่ำเสมอ ไม่เปราะง่าย
  • ดูบรรจุภัณฑ์: เคเบิลไทร์ ควรมาในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิท เพื่อป้องกันไม่ให้โดนอากาศและความชื้นก่อนใช้งานค่ะ

4. เลือกขนาดและความกว้างให้เหมาะสมกับงาน

  • ไม่เล็กหรือบางเกินไป: การเลือก เคเบิลไทร์ ที่เล็กหรือบางเกินไปสำหรับงานที่ต้องรับแรงดึงเยอะๆ อาจทำให้มันขาดง่าย หรือต้องดึงรัดจนแน่นเกินไป ซึ่งก็ทำให้เปราะได้ง่ายเช่นกัน
  • เลือกความกว้างที่เหมาะสม: เคเบิลไทร์ ที่กว้างกว่าจะแข็งแรงกว่าและรับแรงดึงได้ดีกว่าค่ะ

5. วิธีการจัดเก็บ “เคเบิลไทร์” ที่ถูกต้อง

  • เก็บในที่แห้ง เย็น และมืด: ควรเก็บ เคเบิลไทร์ ไว้ในกล่อง หรือในบรรจุภัณฑ์เดิมที่ปิดสนิท เก็บในที่ที่ไม่มีแสงแดดส่องถึง อุณหภูมิห้องปกติ และห่างไกลจากความชื้น
  • อย่าแกะถุงทิ้งไว้: ถ้าซื้อมาเป็นแพ็คใหญ่ๆ แต่ใช้ไม่หมด ควรปิดถุงให้สนิททุกครั้งหลังหยิบใช้งานค่ะ

“เคเบิลไทร์” ทนทานได้ ถ้าเลือกใช้ถูก!

ปัญหา เคเบิลไทร์เปราะง่าย เนี่ย เป็นเรื่องที่เราสามารถป้องกันได้ค่ะ เพียงแค่เราเข้าใจสาเหตุหลักๆ และเลือกซื้อ เคเบิลไทร์ ให้ถูกต้องเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เราจะนำไปใช้งาน

จำไว้เสมอนะคะว่า เคเบิลไทร์สีดำ คือเพื่อนแท้สำหรับงานกลางแจ้งที่โดนแดดจัดๆ ส่วนงานที่ต้องการความทนทานขั้นสุดในทุกสภาพอากาศ หรืออุณหภูมิสุดขีด เคเบิลไทร์สเตนเลส คือคำตอบค่ะ

การลงทุนเล็กๆ น้อยๆ ในความรู้และการเลือกซื้อ เคเบิลไทร์ ที่มีคุณภาพและถูกประเภท จะช่วยให้งานจัดเก็บของคุณเรียบร้อย แข็งแรง และปลอดภัย ไม่ต้องมานั่งเปลี่ยนบ่อยๆ หรือกังวลว่ามันจะเปราะแตกง่ายอีกต่อไปค่ะ

What do you think?

Comments

Comments

Loading…

0

Written by Simon Harper

THE TECHNOLOGY IS ONE

ข้อต่อทองเหลือง

“ข้อต่อทองเหลือง” กับอายุการใช้งาน จะอยู่กับบ้านคุณไปอีกกี่ปี?