ปั๊มลมโรตารี่ กับ ปั๊มลมสายพาน ลูกสูบ มีข้อแตกต่างกันอย่างไร?

หลักการทำงานของปั๊มลมลูกสูบ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นกำลังมาขับเคลื่อนลูกสูบให้เคลื่อนที่ขึ้นลง ทำให้เกิดแรงดูดเเละอัดอากาศภายในกระบอกสูบ โดยจะมีวาล์วทางด้านดูดแล้วก็วาล์วทางออกทำงานไปพร้อมกัน ปั๊มลมแบบลูกสูบถือว่าเป็นที่นิยมใช้งานมากที่สุด ด้วยตัวของปั๊มลมเองมีความเหมาะสมต่อการใช้งาน และมีราคาที่ไม่สูงมากนัก แถมยังเป็นปั๊มลมที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกอีกด้วย ปั๊มลมแบบลูกสูบสามารถสร้างแรงดันลมได้ตั้งแต่ 1 บาร์ไปจนถึง 1,000 บาร์ เลยทีเดียว โดยแรงอัดจะขึ้นอยู่กับจำนวนขั้นของการอัด ยิ่งขั้นในการอัดมากก็จะสามารถสร้างแรงอัดได้สูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

การสร้างแรงดันของปั๊มลมจะขึ้นอยู่กับจำนวน ในการทำงานของปั๊มลม จะมีระบบการทำงานแบบ Single Stage จะสามารถสร้างแรงดันได้ 8-10 บาร์ และการทำงานแบบ Two Stage ปั๊มลมจะสร้างแรงดันได้ 12-15 บาร์ เป็นต้น แต่โดยปกติแล้วปั๊มลมลูกสูบจะสามารถสร้างแรงดันได้ตั้งแต่ 1 บาร์ ทำให้เป็นจุดเด่นอีกหนึ่งจุดของปั๊มลมประเภทนี้ ที่สามารถสร้างแรงดันได้ตั้งแรงดันต่ำ ปานกลาง ไปจนถึงทำแรงดันสูงได้ ปั๊มลมแบบลูกสูบมีทั้งแบบที่ใช้สายพานและแบบโรตารี่นั่นเอง

มาพูดถึง ปั๊มลมโรตารี่กันบ้างนะครับ เป็นปั๊มลมที่ตัวมอเตอร์ขับตรงแบบลูกสูบ มีการส่งผ่านพลังงานจึงทำได้เร็วมาก แต่ต้องใช้น้ำมันในการหล่อลื่นลูกสูบ เพื่อลดการสึกหลอที่เกิดขึ้น เมื่อพูดถึงปั๊มลมโรตารี่แล้วละก็ จะไม่พูดถึงเสียงก็ไม่ได้ ตัวของปั๊มลมโรตารี่เอง ค่อนข้างที่จะดังกว่าปั๊มลมทั่วไปพอสมควร เสียงของปั๊มลมโรตารี่จะดังประมาณ 85-95 เดซิเบล ซึ่งไม่ค่อยเหมาะกับสภาพแวดล้อมแบบปิด เช่น ใช้ภายในอาคาร เพราะเสียงค่อนข้างดัง

ปั๊มลมโรตารี่ สร้างพลังงานผ่านโรเตอร์ภายในสองตัวที่หมุนไปในทิศทางตรงกันข้าม อากาศติดอยู่ระหว่างโรเตอร์ทั้งสองฝั่งตรงข้ามและสร้างแรงดันภายในตัว เนื่องจากระบบระบายความร้อนภายใน ปั๊มลมเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาสำหรับการใช้งานอย่างต่อเนื่องและมีกำลังตั้งแต่ 5 แรงม้า ถึง 350 แรงม้า ปั๊มลมโรตารี่ถือว่าเป็นปั๊มลมอีกประเภทหนึ่งที่ดูแลง่ายที่สุด เนื่องจากติดตั้งระบบทำความเย็นภายในและไม่ต้องการการบำรุงรักษามากสักเท่าไหร่นัก