เวลาใช้ กรรไกร แล้วรู้สึกว่า… “เอ๊ะ ทำไมวันนี้มันฝืด ๆ แปลก ๆ วะ? ตัดเท่าไหร่ก็ไม่ลื่นเหมือนก่อน” คำถามโผล่ขึ้นมาในหัวทันที ต้องลับคมไหม? หยอดน้ำมันพอหรือเปล่า? หรือจริง ๆ ถึงเวลาเปลี่ยนเล่มใหม่แล้ววะ?
เราเชื่อว่าคุณต้องเคยเจอโมเมนต์แบบนี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแน่นอนครับ ไม่ว่าจะเป็น กรรไกร ที่ใช้ตัดกระดาษกับเทปทุกวัน กรรไกร ในห้องครัวที่ใช้ตัดถุงอาหารแช่แข็ง หรือ กรรไกร สายโปรอย่างกรรไกรช่างผ้า ช่างผม ช่างไฟ ฯลฯ ในบทความนี้เลยจะชวนมานั่งคุยกันว่าเวลา กรรไกร เริ่มฝืด ตัดแล้วสะดุ เราควรตัดสินใจยังไงดี ระหว่า งแค่ทำความสะอาด + หยอดน้ำมัน ส่งลับคมจริงจัง หรือยอมปล่อยวาง…แล้วซื้อเล่มใหม่ไปเลย

ทำไม กรรไกร ถึงเริ่มฝืด ทั้งที่ตอนแรกก็ลื่นดี?
ก่อนจะไปถึงคำตอบว่าเราต้องทำอะไรกับมันดี? เราต้องรู้ก่อนว่าจริง ๆ ว่าอะไร? ทำให้ กรรไกร จากที่เคยลื่น ๆ กลายเป็นฝืด ๆ สะดุด ๆ ส่วนใหญ่สาเหตุจะวนอยู่ประมาณนี้ครับ
คราบสกปรก + กาว + ฝุ่นเล็ก ๆ
ตัดเทปกาวบ่อย ๆ คราบกาวไปจับตรงใบมีดและแกน ตัดกระดาษเยอะ ๆ ฝุ่นกระดาษไปอัดค้างในร่อง ตัดพลาสติก ถุงอาหาร คราบมัน/คราบอาหารก็เกาะเพิ่มเข้าไปอีก สุดท้ายมันกลายเป็น “โคลนเหนียว ๆ ขนาดจิ๋ว” ทำให้ใบมีดฝืดและเสียดสีกันไม่ลื่นเหมือนเดิม
ขาดการหล่อลื่นที่แกนหมุน (Pivot)
จุดที่ใบมีดทั้งสองข้างยึดกันด้วยน็อต หรือหมุดตรงกลาง ถ้าขาดน้ำมัน อยู่ในสภาพแห้ง + มีฝุ่นเข้าร่วมวงด้วย ก็จะเกิดอาการฝืด เสียดสี จนมีเสียงเอี๊ยด ๆ ได้ มืออาชีพอย่างช่างผม หลายที่เขาแนะนำให้หยอดน้ำมันตรงแกนสกรูและใบมีดเป็นประจำ เพื่อให้เปิด–ปิดลื่นและช่วยกันสนิมด้วยครับ
คมใบมีดเริ่มหายไปทีละนิด
ใช้ตัดผิดงาน / ตัดของแข็งเกินสเปก / ตกพื้นบ่อย ๆ – ขอบคมเริ่มทื่อ บางจุดบิ่นเล็ก ๆ
พอคมไม่พอ แทนที่ใบมีดจะ “เฉือน” วัสดุ มันกลายเป็น “หนีบ + ถู” ผลคือทั้งฝืด ทั้งสะดุด
แรงตึง (Tension) ที่แกนผิดจากเดิม
- หลวมไป ใบมีดกาง ไม่ประกบกันสนิท ตัดอะไรนุ่ม ๆ ไม่ค่อยขาด แต่บางจังหวะจะเกิดอาการ “กัดแล้วหลุด” แปลก ๆ
- แน่นเกิน ตัดได้อยู่ แต่ต้องออกแรงบีบเยอะ เปิด–ปิดแต่ละทีก็รู้สึกฝืด
ผู้ผลิตกรรไกรหลายเจ้าแนะนำให้เช็กแรงตึงเป็นระยะ ๆ และปรับให้พอดี ไม่หลวมหรือแน่นจนเกินไป เพื่อรักษาความลื่นและยืดอายุการใช้งานครับ
สนิม + ผิวใบมีดเริ่มสึก
เก็บในที่อับชื้น โดนน้ำแล้วไม่เช็ดให้แห้ง บวกกับไม่ได้หยอดน้ำมันหรือเคลือบผิวป้องกันสนิม → สนิมเริ่มขึ้นเป็นจุด ๆ แล้วผิวใบมีดไม่เรียบเหมือนเดิม ก็ลากไม่ลื่นแน่นอน
อาการแบบนี้…แปลว่า ถึงเวลาหยอดน้ำมัน แล้ว
ถ้า กรรไกร ของคุณเริ่มมีอาการเหล่านี้ ให้ลองคิดถึงการ หยอดน้ำมัน + ทำความสะอาด ก่อนเป็นอย่างแรกเลยครับ
เช็กลิสต์อาการฝืดแบบ สายทำความสะอาดช่วยได้
- เปิด–ปิดแล้วมีเสียงเอี๊ยด ๆ หรือโลหะเสียดสีกัน
- รู้สึกหนืด ๆ ที่แกนกลาง แต่เวลาตัดของบางอย่างยังคมอยู่
- พอลองมองใกล้ ๆ มีคราบกาว เทป ฝุ่น หรือคราบมันเกาะตามใบมีด
กรรไกรไม่ได้ตกหนัก ไม่ได้ง้างผิดองศา โครงยังโอเค

วิธีจัดการ กรรไกร ฝืดแบบง่าย ๆ
เช็ดทำความสะอาดก่อน
- ใช้ผ้านุ่ม ๆ แห้ง ๆ (เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าไมโครไฟเบอร์) เช็ดให้ทั่วทั้งใบมีดและด้าม
- เปิด–ปิดกรรไกรระหว่างเช็ด เพื่อให้เข้าถึงบริเวณใกล้ ๆ แกน
- ถ้ามีคราบกาวเทปเหนียว ๆ ใช้ทิชชูชุบน้ำมันนิดเดียว (เช่น น้ำมันจักร หรือน้ำมันเอนกประสงค์บาง ๆ) ถูเบา ๆ ให้หลุด
หยอดน้ำมันที่แกน (Pivot) เล็กน้อย
- เปิด กรรไกร ให้แง้มออก
- หยอดน้ำมัน 1–2 หยดตรงจุดที่ใบมีดไขว้กัน (บริเวณสกรู/หมุดกลาง)
- เปิด–ปิดกรรไกร 10–20 ครั้ง ให้รู้สึกว่าน้ำมันซึมเข้าไปตามร่อง
- เช็ดน้ำมันส่วนเกินออก ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็น “กับดักฝุ่น” ในอนาคต
ลองทดสอบอีกที
- ตัดกระดาษบาง ๆ ทดสอบ
- ถ้าความฝืดหายไปเยอะ เปิด–ปิดแล้วรู้สึกลื่นขึ้น ถือว่าชนะแล้วครับ
- ถ้ายังฝืดมาก อาจต้องเช็กต่อว่าแกนแน่นเกินไปหรือเปล่า (ถ้ามีสกรูปรับได้)
แล้วเมื่อไหร่ที่ “หยอดน้ำมัน กรรไกร ก็ไม่ช่วยแล้ว” ต้องลับคมจริงจัง
มีหลายเคสที่พอเราทำความสะอาด+หยอดน้ำมันแล้ว ความฝืดหายไปบ้าง แต่ยังมีอีกอาการหนึ่งที่ตามมา คือ “ตัดแล้วไม่ค่อยขาด…คม กรรไกร มันหายไปแล้ว”
สังเกตอย่างไรว่า “ถึงเวลาให้ช่างลับคมแล้ว”
- ตัดกระดาษแล้วขอบรุ่ย ๆ เหมือนถูกฉีก ไม่ใช่ถูกตัด
- ตัดถุงพลาสติก/ถุงขนม แล้วปากถุงยืด ๆ ย้วย ๆ ก่อนจะหลุด
- ตัดผ้าหรือเส้นไหมแล้วผ้าไม่ขาดทีเดียว แต่โดนดึง
- ต้องออกแรงบีบด้ามเยอะขึ้น ทั้งที่งานเดิม ๆ
ลับเองดีไหม หรือควรให้มืออาชีพทำ?
นี่เป็นเรื่องที่คนเถียงกันเยอะมาก ผมขอสรุปแบบกลาง ๆ ตามที่หลายแหล่งแนะนำไว้:ลับเองได้ ถ้า…เป็น กรรไกร งานบ้านทั่ว ๆ ไป ราคาไม่สูง ใช้หินลับหรืออุปกรณ์ลับที่ “ออกแบบมาสำหรับกรรไกร” ต้องยอมรับได้ว่าถ้าพลาด อาจต้องเปลี่ยนเล่มใหม่เลย
ควรส่งให้มืออาชีพ ถ้า… เป็นกรรไกรดี ๆ ราคาแพง เช่น กรรไกรตัดผ้าเกรดดี กรรไกรช่างผม กรรไกรงานละเอียด ขอบใบมีดมีองศาเฉพาะ ถ้าลับมุมผิด จะเสียทรงทันที คุณไม่ได้มีประสบการณ์ลับมีด/กรรไกรมาก่อน

แล้วจุดไหนที่ต้องยอมรับว่า ถึงเวลาเปลี่ยน กรรไกร ใหม่ แล้วจริง ๆ
พูดกันแบบตรงไปตรงมา มีจุดหนึ่งที่ไม่ว่าหยอดน้ำมัน ลับคม ปรับแกนยังไง…ก็ไม่คุ้มแล้ว นั่นคือช่วงที่ “โครงสร้าง กรรไกร มันเริ่มพังแล้ว ไม่ใช่แค่คมอย่างเดียว
เช็กลิสต์ กรรไกร เข้าสู่โหมดเกษียณ กันเถอะ
- ด้ามแตก / ยางหุ้มด้ามฉีก จับแล้วเจ็บ ไม่สบายมือ
- แกนหลวมมาก ขันแล้วก็ยังโยกเยก หรือเกลียวน็อตเริ่มไปแล้ว
- ใบมีดเป็นสนิมลึก ๆ กินเข้าไปถึงขอบคม
- ใบมีดบิ่นเยอะ เคยตกกระแทกหนัก ขอบขรุขระทั้งแนว
- ลับมาหลายรอบจนเหล็กสั้นลง แบบที่สายช่างเรียกว่า “ลับจนไม่เหลือเนื้อ”
ในโลกของกรรไกรตัดผม เขาประเมินกันคร่าว ๆ ว่า กรรไกรดี ๆ ถ้าดูแลดี ลับถูกวิธี อาจอยู่ได้นานหลายปี แต่กรรไกรเกรดถูก ๆ ใช้งานหนัก ไม่ค่อยดูแล อาจต้องเปลี่ยนภายใน 1–2 ปีเท่านั้นสำหรับกรรไกร ใช้งานทั่วไปในบ้าน เราไม่จำเป็นต้องเป๊ะขนาดนั้นหรอกครับ เอาหลักง่าย ๆ เลยว่า ถ้า “ราคาในการลับ + เสียเวลา + ความเสี่ยงลับแล้วไม่ดี” ใกล้เคียงหรือแพงกว่า “ซื้อเล่มใหม่ที่ดีกว่าเดิม” ก็ถึงเวลาปล่อยเล่มเก่าไปพักได้อย่างสงบแล้วครับ
สรุปสั้น ๆ แบบเพื่อนเตือนเพื่อน
ถ้าวันนี้ กรรไกร ในมือคุณเริ่มฝืด ๆ สะดุด ๆ ลองถามตัวเองทีละข้อว่า มันแค่สกปรก/แห้งไปหรือเปล่า ลองเช็ด + หยอดน้ำมันก่อน หรือมันไม่คมแล้วจริง ๆ ถึงเวลาให้ช่างลับ หรือที่จริง…มันแก่เกินเยียวยาแล้ว เปลี่ยนเล่มใหม่ จะได้ไม่ต้องทรมานทั้งมือทั้งใจ

Comments