เมื่อเกิดคำถามขึ้นมาว่าอะไรคือความแตกต่างระหว่าง สว่านกระแทก กับ ไขควงกระแทก เบื้องต้นหลายคนอาจจะตอบไม่ค่อยได้เพราะว่า การทำงานของทั้ง 2 เครื่องมือนั้นก็เป็นงานเกี่ยวกับการ ขัน เหมือนกัน และแน่นอนว่า เราก็อาจะเคยนำเครื่องมือทั้ง 2 อย่างนั้นไปใช้งานในทางที่ผิดแล้วแน่ๆ และด้วยความคลายกันหลายอย่างของ ไขควงกระแทก กับ สว่านกระแทก นั้นไม่ว่าจะเป็นหัวจับดอกสว่าน ที่สามารถใส่ดอกที่เป็นแบบไขควงได้ และตัวไขควงเองก็สามารถจับดอกสว่านได้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังการออกแบบคลายกัน แต่เมื่อพูดถึงการขายนั้นทางผู้ผลิตกลับขายสินค้าแบบเป็นเซ็ต ทำให้เกิดคำถามต่อมาว่าทำไม่สินค้าที่มีความคลายกันต้องขายเป็นเซ็ต ซึ่งวันนี้เราเลยจะพามาทำความรู้จักเกี่ยวกับ กลไกลการทำงานของ สว่านกระแทก และ ไขควงกระแทกกันนะคะ
ขอเกรินก่อนละกันนะค่ะ ว่าเรื่องความเร็วและ แรงบิดนั้น หากพูดถึงแล้วมีความสัมพันธ์กันก็จริง แต่ว่าวัตถุประสงค์นั้นจะทำให้เราเข้าใจว่า เพราะแรงบิดของสว่านจะน้อยกว่าแรงบิดของไขควงกระแทก เพราะว่า เมื่อสว่านเจาะเข้าไปแล้วอาจจะเจอเข้ากับวัตุอื่นที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดการ kickback หรือเกิดการสะบัดนั้นเอง แต่พอพูดถึงเรื่องความเร็วนั้น ความเร็วสว่านจะมากกว่าความเร็วของไขควงกระแทก เพราะว่า ไขควงกระแทก นั้นจะต้องใช้ความแม่นยำในการขันสกูรให้แน่น นั้นเอง
กลไกลการทำงานของ สว่านกระแทก
กลไกลการทำงานของ สว่านกระแทก นั้น จะถูกขับเคลื่อนและหมุนด้วยเฟือง ซึ่งเป็นการหมุนที่ละเอียดกว่า โดยโหมดกระแทกที่มีในตัว สว่านกระแทก นั้นจะเป็นโหมดที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้กับงานที่เจาะปูน ผนัง เหล็ก หรือไม้ โดยการทำงานของระบบกระแทกในสว่านนั้น จะเป็นการกระแทกแบบเเนวตรง ลักษณะการทำงานจะเหมือนกับการใช้ค้อนตีตรงๆ ลักษณะเหมือนการตอกตะปู เพราะว่า สว่านกระแทกนั้นมีไว้เพื่อใช้เจาะ และจะต้องเป็นการเจาะที่แม่นยำนั้นเอง
จากรูปเราจะเห็นว่า ไขควงกระแทกนั้นจะหมุนแบบลักษณะเป็นวงกลม และจะมีระยะการส่าย ทำให้เมื่อเทียบกับสว่านั้น จะมีความแม่นยำในการเจาะนั้นน้อยกว่า สว่าน นั้นเอง
ถ้าถามว่าสามารถนำ สว่านกระแทกมาใช้ทำงานขันได้ไหม?
คำตอบที่ได้ ก็เเน่นอนว่าทำได้ แต่ว่ามันก็จะเกี่ยวข้องกับการปรับของแรงบิดให้มีความสอดคล้องกับขนาดของสกูรนั้นด้วย เพราะถ้าหากว่าเราเป็นช่างมือใหม่ มีความแม่นยำไม่มากพอ ก็จะส่งผลกระทบตามมาอย่างเช่น หากตั้งแรงบิดน้อยเกินไปก็จะทำให้สว่านทำงานแค่แรงบิดที่เราตั้งค่า และอาจจะทำงานเกินกำลังหมุนจนเครื่องร้อนทำให้อายุการใช้งานลดลง หากเราตั้งแรงบิดเยอะไป ก็จะทำให้สกูรจม ข้อเสียอีกอย่างเลยก็คือ แรงบิดของสว่านนั้นมักจะทำให้หัวสกูรรูด ส่งผลเสียต่อชิ้นงาน เช่น ถ้าเป็นงานไม้ก็จะทำให้หน้าไม่แตกนั้นเอง
ความแตกต่างของสว่านกระแทกกับสว่านโรตารี่
สว่านกระแทก เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับการเจาะ (เจาะเหล็ก เจาะไม้ เจาะปูน) เป็นลักษณะของการเจาะนำเพื่อใส่พุก หรือสร้างรูสำหรับกล่องเต้าเสียบ โดยเราจะต้องใช้ดอกสว่านที่สำหรับการเจาะกระแทก ในขณะที่หมุนเพื่อดันวัสดุ เพราะสว่านกระแทกนั้น มีการออกแบบที่กะทัดรัดและน้ำหนักเบา เมื่อเปรียบเทียบกับสว่านโรตารี่ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเจาะรูที่มีขนาดไม่เกิน 1/2″ หรือมากกว่านั้นในงานเกี่ยวกับปูนหรืออิฐ หิน แต่เดิมไม่มีการออกแบบให้สามารถใช้งาน รวมกับอุปกณ์เสริมที่เกี่ยวกับระบบจัดการฝุ่น จึงทำให้เราหายใจไม่ออกในขณะที่ทำงานเจาะ และในระยะเวลานานมันจะส่งผลเสียต่อร่างกายนั้นเอง และสว่านกระแทกแบบเดิม ไม่ใช่เครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการขันสกรู อย่างที่เราได้พูดไปว่า ดอกสว่านนั้นจะคลายกับสว่านทั่วไป เลยทำให้ สว่านกระแทกไร้สายที่ทันสมัยส่วนใหญ่จึงคิดค้นและออกมา ให้สามารถเลือกโหมด การขัน การกระแทก และโหมดที่สามารถทั้งขันและกระแทกพร้อมกัน ทำให้ปัจจุบันนี้สว่านไร้สายเป็นที่ต้องการของเหล่าช่างอาชีพ และช่าง DIY เพราะมีถึง 3 ฟังก์ชันในเครื่องมือเดียว
และเมื่อเราเข้าใจถึงกระบวนการทำงานและข้อจำกัดของสว่านกระแทกแล้ว นั้นก็คือเหตุผลที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้เป็นสว่านโรตารี่แทนกับบางงานที่เป็นงานหนักจริงๆ เพราะว่า สว่านโรตารี่ก็เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับงาน อิฐเช่นกัน แต่มีขนาดใหญ่กว่า และใช้กลไกลที่แตกต่างกัน
กลไกลการทำงานของ ไขควงกระแทก
การทำงานแบบ IMPACT DRIVER โดยจะเป็นการหมุนแบบกระเเทกในลักษณะวงกลม โดยการทำงานลักษณะนี้จะเป็นการสะสมแรงบิดไว้ในช่วงหนึ่ง แล้วปล่อยออกไปกระแทกด้วยระบบสปริง เลยทำให้แรงบิดของไขควงกระแทกจะเยอะกว่าสว่านกระแทกนั้นเอง และไม่ได้ถูกขับเคลื่อนด้วยเฟืองเหมือนสว่านกระแทก แต่จะเป็นการหมุนแบบตอก ส่วนอีกคุณสมบัติหนึ่งที่ไม่มีในตัวสว่านกระแทกก็คือ ไขควงกระแทกนั้นสามารถเปลี่ยนใส่อะแดปเตอร์ ให้เป็นบล็อค ได้อีกด้วย แต่ประสิทธิภาพในการทำงานอาจจะไม่เท่าบล็อคกระแทก เพราะด้วยแรงบิดที่น้อยกว่านั้นเอง
กลไกลของ ไขควงกระแทก สร้างแรงกระแทกจากการหมุนควงสำหรับการขันสกรูทุกชนิดและน็อตหกเหลี่ยม แรงบิดที่มีภายในตัวเครื่องจะทำงานเป็นอย่างดี เพื่อให้สามารถขันและถอดตัวสกูรที่ถูกยึดอย่างหนาเเน่น ให้ออกอย่างง่ายดาย แต่ในขณะที่ หากเป็นการทำงานของสว่านที่แรงบิดคงที่จำทำให้ แรงในการหมุนอาจจะไม่พอนั้นเอง นอกจากนั้นคุณยังสามารถใช้ตัวไขควงกระแทก ในการเจาะได้ด้วยก็จริงแต่การเจาะนั้น จะสามารถทำได้แค่กับไม่เนื้ออ่อน หรือวัตถุที่มีความให้ตัวไม่มาก เช่น พลาสติก หรืออะคริลิค เราจึงไม่ค่อยเห็นว่าจะมีใครนำไขควงไปเจาะเหล็ก หรือปูนนั้นเอง เพราะการนำเครื่องมอไปใช้แบบผิดประเภทนั้น ก็อาจจะทำให้เกอิดอันตรายได้นั้นเอง และข้อจำกัดอีกอย่างที่ขอการใช้ไขควงกระแทกแทนสว่านก็คือ หัวจับไขควงนั้น จะสามารถใส่ได้แค่กับดอกสว่านที่เป็นก้านแบบ 6 เหลี่ยมนั้นเอง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม วิธีนี้จะไม่เหมาะเพราะว่า ไขควงกระแทก นั้นถูกออกแบมาเพื่อ ใช้ในการขันให้แน่นมากกว่า หากดูเบื้องต้นอาจจะเข้าใจว่าเครื่องมือทั้ง 2 นั้นเป็นเครื่องมือสำหรับงานขันเหมือนกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราสามารถแยกแยะ ความแตกต่างระหว่างการทำงานได้เเน่นอนอยู่แล้ว
ความแตกต่างของ ไขควงกระแทก กับ ไขควงไฟฟ้า
ไขควงกระแทก นั้นก็ยังแยกออกเป็น ไขควงไฟฟ้าธรรมดา เช่นเดียวกับการที่มีสว่านกระแทก กับไม่มีกระแทก โดยไขควงไฟฟ้านั้นจะมีไว้แค่สำหรับงานประกอบเฟอร์นิเจอร์ การสร้างชิ้นงาน DIY แบบเบาๆ หรืองานซ่อมแซมที่ไม่ใช่งานหนักมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม ไขควงไฟฟ้า ก็ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กับเครื่องมืออื่น เพราะเนื่องจาก ที่แต่ก่อนช่างจะใช้ไขควงหลายแบบและต้องพกเครื่องมือหลายอย่าง ตามลักษณะและขนาดของสกูร แต่พอมีไขควงไฟฟ้าก็สามารถช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น นอกจากจะเป็นการช่วยให้ประหยัดแรงในการขันมือเองแล้วนั้น ยังสะดวกเรื่องการเปลี่ยนหัวไขควงอีกด้วย
สรุปการใช้งานของสว่านกระแทก กับ ไขควงกระแทก
- สว่านกระแทกนั้นส่วนใหญ่จะเป็นงานเกี่ยวกับการเจาะนำ เพื่อฝั่งสกูร สามารถเจาะได้ทั้ง เหล็ก ไม้ และปูน(ใส่รูป)
- ไขควงกระแทกนั้นเหมาที่จะใช้กับงาน ที่เกี่ยวกับการซ่อมรถมอไซต์ รถยนต์ หรือ งานที่เกี่ยวกับการประกอบที่เป็นเหล็ก เพราะต้องใช้แรงบิดและกลไกลการทำงานที่หมุนแบบกระแทกไปด้วย(ใส่รูป)
จากสาเหตุต่างๆที่ได้กล่าวมานั้น ทำให้เครื่องมือแต่ละอย่างนั้น ถูกออกแบบมาเพื่อมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่ต่างกัน ถ้าหากมีการนำมาใช้งานแบบผิดประเภทแล้วถามว่า ตัวไหนให้ผลลัพธ์ดีที่สุด เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจซื้อ คงไม่มีใครสามารถตอบได้ เพราะแต่ละตัวก็จะมีข้อดีและข้อจำกัดนั้นเอง เป็นไปไม่ได้ว่า มีสว่านกระแทกเพียงตัวเดียวจะสามารถใช้กับทุกงานได้ เพราะสว่านมีข้อจำกัดเรื่องแรงบิด และมีไขควงกระแทกเพียงตัวเดียวก็ไม่สามารถเจาะได้เช่นกันนั้นเอง
ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบคำถามทั้งหมดทั้งมวล จึงสรุปได้ว่า หากคุณต้องการให้งานขั้น ออกมาดีให้เลือกใช้ ไขควงกระแทก และหากคุณต้องการงานเจาะที่แม่นยำ ให้เลือกใช้ สว่านกระแทก หรือเมื่อทราบถึงกลไกลการทำงานแล้วอยากได้ทั้ง 2 ตัวเพื่อให้การทำของคุณนั้นมีผลลัพธ์ออกมาดี และมีประสิทธิภาพ ก็ควรเลือกซื้อเช็ต COMBO ที่ทางผู้ผลิตจัดสรรคมานั้นเอง
เช็คราคา สว่านกระแทกไร้สาย และ ไขควงกระแทก
Comments