in

การใช้งาน เลื่อยราง Festool TS 55 และ โต๊ะ MFT แบบเบื้องต้น

เครื่องมือไฟฟ้าจำนวนมากมีการพัฒนาประสิทธิภาพและเทคโนโลยีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่น่าแปลกใจที่ช่างไม้และ คนที่ชื่นชอบการทำงาน DIY เลือกใช้เครื่องมือไฟฟ้าเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง เลื่อยราง ก็กลายเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมด้านเครื่องมือไฟฟ้า ที่มีประสิทธิภาพสำหรับทำงานไม้อย่างแน่นอน

เนื่องจากฟังก์ชันที่ใช้งานง่าย และประสิทธิภาพสูง เลื่อยราง จึงมีชื่อเสียงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ผู้เริ่มต้นหลายคนไม่รู้วิธีใช้เลื่อยราง ซึ่งส่งผลให้งานเสร็จไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น วันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการใช้งานเลื่อยรางเบื้องต้นกัน

1

เลื่อยราง คืออะไร?

อธิบายความเป็นมา

เลื่อยราง ถูกคิดค้น โดย Festool เป็นผู้ผลิตเครื่องมือไฟฟ้าของเยอรมันที่เปิดตัวเลื่อยรางนําร่องรายแรกในปี 1962 โดยจดสิทธิบัตรและเปิดตัวเลื่อยราง ครั้งแรกในปี 1980 เลื่อยราง คือ เลื่อยวงเดือน ที่ใช้งานคู่กับรางโลหะ ใบเลื่อยมีการออกแบบให้กะทัดรัด จึงง่ายต่อการใช้งานแบบถือด้วยมือเดียว หรือสองมือ และยังสามารถตัดเส้นตรงบนกระดานไม้ทุกขนาดได้อย่างแม่นยำเป็นพิเศษ รางจะทำให้เลื่อยมีเสถียรภาพขณะวิ่ง ป้องกันไม่ให้เคลื่อนที่หรือลื่นไถลออกจากเส้นที่ทำเครื่องหมายไว้ ยังสามารถปรับระยะกินลึกของใบเลื่อยได้

ทำไมต้องใช้เลื่อยราง ?

เลื่อยรางมาพร้อมกับข้อได้เปรียบเชิงปฏิบัติมากมายที่ช่วยช่างไม้อย่างมากในการทำงานไม้ทุกประเภท ตั้งแต่งานเบาไปจนถึงงานหนัก

  • สะดวกในการใช้

สำหรับเลื่อยแบบพกพาอื่น ๆ ผู้ใช้จะต้องทำเครื่องหมายบริเวณที่จะตัดไม้และนำวัสดุเข้าไปในใบเลื่อยหรือขยับใบมีดให้ใกล้กับบริเวณที่ระบุเพื่อเริ่มตัด ในทางกลับกัน เลื่อยราง เพียงแค่วางรางโลหะบนไม้ส่วนที่ต้องการตัดและเริ่มกระบวนการตัดได้ทันที

  • การตัดที่แม่นยำ

เลื่อยราง มีชื่อเสียงอย่างกว้างขวางในด้านความสามารถในการตัดที่แม่นยำ แม้ว่าเลื่อยวงเดือนอื่นๆ จะเป็นงานที่ยากได้และมีหลายวิธีในการตัดให้แม่นยำ แต่เลื่อยราง ก็มีความเที่ยงตรงของการตัดได้อย่างแน่นอน แม้ว่าเลื่อยราง จะไม่ใช่ตัวเลือกเดียวเมื่อพูดถึงการตัดบนพื้นที่ราบเรียบอย่างแม่นยำ แต่มันก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมงานไม้

  • ความสามารถในการตัดกระดานขนาดใหญ่

จุดขายที่ไม่เหมือนใครของเลื่อยราง คือสามารถตัดชิ้นไม้ขนาดใหญ่ การจัดการวัสดุแผ่นใหญ่ที่มีความแม่นยำสูงอาจทำได้ยากกว่าเมื่อใช้เลื่อยวงเดือนทั่วไป เหตุผลก็คือการรักษาเลื่อยให้อยู่บนแนวตรงสำหรับชิ้นงานที่ยาวต้องใช้ความพยายามอย่างมาก

นอกจากนี้ การจัดการกับกระดานขนาดใหญ่นั้นยากสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น โต๊ะเลื่อย เนื่องจากพวกมันไม่ใหญ่พอที่จะตัดชิ้นไม้ที่ใหญ่ได้

เมื่อคุณตัดไม้ที่ยาวมากโดยใช้เลื่อยราง รางโลหะที่วางไม้จะช่วยให้ใบเลื่อยมีเสถียรภาพและให้ความแม่นยำมากขึ้น

  • การพกพา

เลื่อยรางพกพาสะดวกกว่าโต๊ะเลื่อยหรือเลื่อยวงเดือนอื่นๆ สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายขึ้นและปลอดภัยกว่าในการเคลื่อนย้ายระหว่างการทำงานต่างๆ เพราะมีขนาดกระทัดรัด

2

วิธีการใช้เลื่อยรางอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ข้อแนะนำเบื้องต้นในการใช้งาน

เลือกวัสดุที่เหมาะสม

กฎหลักในการใช้เลื่อยรางอย่างมีประสิทธิภาพ คือ การเลือกวัสดุที่เหมาะสมสำหรับอุปกรณ์ของคุณ โปรดจำไว้ว่า เลื่อยรางมีไว้เพื่อตัดผ่านวัสดุที่เป็นไม้ เช่น ไม้แปรรูป ไม้ตัดแต่ง เมลามีน หรือไม้อัด

ดังนั้น คุณจึงไม่ควรพยายามใช้เลื่อยรางของคุณทำงานกับวัสดุที่ไม่ใช่ไม้ รวมถึงเซรามิก อะลูมิเนียม เหล็ก และคอนกรีต เพื่อยืดอายุการใช้งาน ความทนทานและความปลอดภัยของเครื่องมือ หากคุณสัมผัสกับวัสดุดังกล่าว อาจทำให้เลื่อยเสียหายและอาจทำให้ตัวคุณเองเกิดอันตรายก็เป็นได้

เลือกใบเลื่อย

ลักษณะการใช้งานขึ้นอยู่กับชนิดของใบเลื่อยและคุณภาพของใบเลื่อยเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากใบเลื่อยตัดผ่านชิ้นงานโดยตรง ดังนั้น การเลือกใบเลื่อยที่เหมาะกับงานของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทการตัด โดยพื้นฐานแล้ว ยิ่งใบเลื่อยของคุณมีฟันมากเท่าไร ก็ยิ่งตัดละเอียดได้มากเท่านั้น เหมาะสำหรับไม้อัดหรือเมลามีน โมดูลใช้ใบเลื่อยที่มีฟัน 48 หรือ 46 ฟัน เป็นตัวเลือกที่ดีเพื่อให้ได้ขอบที่สะอาดและเรียบ แต่ถ้าต้องการตัดไม้จริง ที่มีความแข็งกว่า คุณควรใช้ใบเลื่อย 18 หรือ 28 ฟัน สำหรับตัด จะเหมาะสมมากกว่า

ปรับความลึกในการตัด

ควรปรับความลึกใบเลื่อย ให้ตัดเกินเนื้อไม้ไปประมาณะ 2-3 mm เพื่อให้ตัดไม้ขาดและเรียบ เมื่อกำหนดระยะกินลึก แนะนำให้หลีกเลี่ยงการตัดไม้ที่มีความหนาน้อยกว่า ⅛ นิ้ว ขอบเขตไม้ควรหนาพอที่จะไม่เสี่ยงจะกินเนื้อโต๊ะและเกิดความเสียหายของใบมีด แต่ไม่หนาจนใบมีดไม่สามารถตัดลงไปถึงด้านล่างและส่งผลต่อความแม่นยำของรอยตัด

  • เปิดเครื่องมือ

เมื่อเปิดใช้งานเลื่อยรางตัดและทำการตัดแบบต่างๆ คุณต้องจับให้แน่นเพื่อป้องกันไม่ให้เลื่อยลื่น

เลื่อยรางไม่เหมือนกับเลื่อยอื่นๆ คุณต้องกดทริกเกอร์ของเครื่องมือเพื่อเปิดใช้งานมอเตอร์ จากนั้นกดสวิตช์เปิด แสดงว่าคุณ Start อุปกรณ์ได้สำเร็จและพร้อมที่จะเริ่มการตัด

เปิดเครื่องก่อนเริ่มตัด

หลังจากที่คุณเปิดเลื่อยรางแล้วอย่ารีบตัดทันที คุณควรให้เวลามันหมุนสักครู่แล้วรอจนกว่าใบเลื่อยจะมีความเร็วที่เหมาะสม

หากใบเลื่อยหมุนไม่ได้กำลังที่เพียงพอ และเริ่มตัดอย่างกะทันหัน อาจสร้างความเสียหายให้กับวัสดุของคุณ ใบเลื่อยที่หมุนด้วยความเร็วที่เหมาะสมสามารถทำให้ตัด ได้ปลอดภัยขึ้น และแม่นยำยิ่งขึ้น

คำนึงถึงข้อควรระวังด้านความปลอดภัย

เพื่อความปลอดภัยของคุณ คุณควรคำนึงถึงข้อกำหนดด้านความปลอดภัยเสมอเมื่อดำเนินการตัด การใช้เลื่อยรางนั้นค่อนข้างง่าย ดังนั้นผู้ปฏิบัติงานส่วนใหญ่จึงเพิกเฉยต่อข้อควรระวังด้านความปลอดภัย

จะทำให้คุณเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุและได้รับบาดเจ็บมากขึ้นหากคุณใช้เลื่อยรางโดยไม่มีการป้องกันที่เพียงพอ ดังนั้นคุณควรสวมถุงมือป้องกันและแว่นตาเพื่อความปลอดภัยในทุกกรณี

ใช้ตัวรองราง

จุดเด่นของการใช้เลื่อยรางคือความสามารถในการทำงานบนรางนำทาง รางนำยึดชิ้นไม้ของคุณด้วยตัวหนีบหรือแถบ F ช่วยให้คุณเลื่อนเครื่องมือไปตามแนวตัดได้อย่างราบรื่น รางนี้ช่วยให้ผู้ที่ทำงาน DIY สามารถทำงานไม้และตัดตรงอย่างแม่นยำ เช่นตัด ไม้อัด เมลามีน หรือประตู เสร็จอย่างง่ายดาย

3

คุณสมบัติในการเลือกซื้อเลื่อยราง

สิ่งที่ต้องคำนึงในการเลือกซื้อเลื่อยราง

งานที่แตกต่างกันจะต้องใช้เลื่อยประเภทต่างๆ แต่ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหาเลื่อยรางประเภทใด ควรมีคุณสมบัติ เครื่องมือ ดังต่อไปนี้

1.กำลังมอเตอร์

สิ่งแรกที่พบในเลื่อยราง คุณภาพดีคือ มอเตอร์ที่มีกำลัง การซื้อเครื่องมือที่มีมอเตอร์กำลังต่ำอาจช่วยประหยัดเงินได้บ้าง แต่จะลดประสิทธิภาพและประสิทธิผลของเลื่อย คุณควรเลือกรุ่นที่ให้กำลังมอเตอร์ 9 แอมป์ขึ้นไป หากน้อยกว่านี้ เลื่อยรางจะส่งกำลังตัดไม่เพียงพอ

2.ความเร็ว (รอบต่อนาที)

อีกปัจจัยหนึ่งที่กำหนดเครื่องเลื่อยรางที่คุ้มค่าแก่การซื้อคือ RPM สูงสุดที่สามารถเข้าถึงได้ ตามหลักการแล้ว คุณควรเลือกเครื่องที่มาพร้อมกับความเร็วสูงสุดประมาณ 2,000 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นอัตราเฉลี่ยของเลื่อยรางเชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่ที่มีในตลาด ถ้าเป็นไปได้ คุณสามารถเลือกเลื่อยรางที่ตั้งค่าความเร็วรอบได้ ความเร็วต่างๆ ช่วยให้คุณทำงานกับวัสดุต่างๆ และทำให้ตัดบนไม้ที่แตกต่างกันได้ง่ายขึ้น

3.ด้านความปลอดภัย

คุณอาจมองข้ามจุดนี้ไปในฐานะมือใหม่ แต่นัก DIY มืออาชีพรู้ว่าคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่เพิ่มเข้ามาเป็นประโยชน์อย่างมากต่อพวกเขา เช่น เบรกไฟฟ้า (จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสตาร์ทมือ) หรือคุณสมบัติป้องกันการเตะกลับ

4

ทำความรู้จัก เลื่อยราง Festool TS 55

อธิบายการใช้งานเบื้องต้น

Festool เป็นแบรนด์เครื่องมือไฟฟ้า จากเยอรมันนี เป็นรายแรกที่ผลิตเลื่อยราง ซึ่งเป็นเลื่อยตัดไม้ที่แม่นยำสูง คุณภาพสูง และเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการทำงานไม้

เราจะมาพูดถึง เลื่อยราง Festool TS 55 การออกแบบให้กระทัดรัด พกพาง่ายและสามารถตัดไม้ความหนาสูงสุด 55 mm ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่งานเล็กจนถึงงานชิ้นใหญ่ ด้วยความสะดวกนี้คุณสามารถใช้เลื่อยราง Festool แม้จะทำงานคนเดียวได้เลย จึงเป็นเครื่องมือตัดไม้ที่ควรมีไว้ใช้งานอย่างยิ่ง

ส่วนประกอบของเลื่อยราง

ปุ่มเปิด และดันใบเลื่อยลง
  • ปุ่มเปิด – กดไก
  • ปุ่มดันใบเลื่อยลง – เป็นระบบที่ปลอดภัย
ปรับความลึกของใบเลื่อย
  • ดูที่ด้านซ้าย -ปรับความลึกของใบเลื่อย เมื่อเลื่อยอยู่บนไม้
  • ดูที่ด้าน FS – เลื่อนปรับความลึกของใบ เมื่อเลื่อยอยู่บนราง
  • เกลียวหมุนสีดำ – หมุนปรับระยะเพิ่มความแม่นมากขึ้น
  • ปรับความลึกโดยเลื่อนโดยการกดแล้วเลื่อนขึ้น – ลง

การปรับองศาใบเลื่อย

ปรับองศาใบเลื่อย
  • หมุนปลดล็อก – เพื่อปรับองศา
  • จากนั้นเลื่อนปรับองศาขึ้น-ลง ตั้งแต่ 0 – 45 องศา
  • สามารถปรับลงไปที่ -1 องศาได้ โดยการดึงตัวล็อกด้านหน้าขึ้น
  • และปรับไปที่ 46 – 47 องศาได้ เมื่อดึงตัวล็อกด้านหลังเครื่องออก
  • ตัวปรับความลื่น – ตึงในการยึดเลื่อยบนราง ใช้ช่วยยึดเลื่อยในกรณีปรับองศาใบเลื่อย
เส้นบอกระยะใบเลื่อย – ช่องมองระยะใบเลื่อย
  • เส้นขีดบอกระยะใบเลื่อย และ ช่องมองระยะใบเลื่อย
ตัวกดเสี้ยนไม้
ปรับขึ้น – ลง โดยคลายล็อกที่ลูกบิดสีดำ
  • ที่กดเสี้ยนไม้ – อุปกรณ์เสริม ที่ช่วยสำหรับกดเสี้ยนไม้เพื่อให้สามารถตัดไม้ได้เรียบ และทำให้ไม้ไม่แตก รอยเรียบสวย กรณีตัดไม้ที่บาง เช่น ไม่อัด
ตัวป้องกัน kickback
  • ตัวป้องกันไม้หนีบใบเลื่อย – เพื่อการตัดที่ต่อเนื่องและแม่นยำ
ตัวปรับความเร็วรอบ
  • ตัวปรับความเร็วรอบการหมุนของใบเลื่อย
  • การตัดไม้หนา หรือ พาร์ติเคิ้ลบอร์ด ปรับความเร็วรอบที่ 5-6 เพื่อให้ตัดไม้ได้อย่างแม่นยำ
  • การตัดไม้ที่บางกว่า ให้ปรับความเร็วรอบลงที่ 3-4 เพื่อไม้ให้ไม้ไหม้
  • ความเร็วรอบใบ ถ้าเร็วเกินไปอาจจะทำให้ชิ้นไม้ไหม้ได้
  • ตัวเลื่อยมีระบบอิเล็กทรอนิคควบคุมความร้อนของทุ่น ไม่ให้ร้อนจนเกินไป – จะปรับรอบให้ต่ำลงเอง

การเปลี่ยนใบเลื่อย

ระบบ FASTFIX
ปรับใบลงเพื่อเตรียมเปลี่ยนใบ
  • FASTFIX – ระบบเปลี่ยนใบแบบรวดเร็ว ดึงขึ้น เพื่อล็อกไม่ให้ใบหมุนขณะไขเปลี่ยนใบ
  • ปรับค่าความลึกใบให้เป็นค่าเริ่มต้น แล้วกดใบลง
ดึงประแจออกเพื่อเตรียมเปลี่ยนใบ
ขันเปลี่ยนใบ
  • ประแจหกเหลี่ยม – ดึงออกจากช่องด้านบนเลื่อย และนำไปไขเปลี่ยนใบได้
  • ขันใบออก ตามลูกศร – เพื่อคลายล็อกใบ
ท่อต่อเครื่องดูดฝุ่น
เมื่อต่อเครื่องดูดฝุ่นแล้ว
  • ท่อสำหรับต่อเครื่องดูดฝุ่น เพื่อความสะดวกในการทำงาน
ช่องเสียบปลั๊ก
Plug it
  • ช่องสำหรับเสียบปลั๊ก – เพื่อง่ายต่อการถอดเก็บใส่กล่อง สะดวกในการใช้งาน
  • Plug it ปลั๊กที่ถอดเข้าออกเพื่อเสียบไฟได้สะดวก
ราง 1.4 เมตร
เมื่อวางเลื่อยบนราง
  • รางความยาว 1.4 เมตร – รางโลหะนำตัดไม้ สามารถต่อเพิ่มได้ เป็น 2.8 เมตร เพื่อตัดไม้ที่มีหน้ากว้างมากๆ
5

โต๊ะทำงานเอนกประสงค์ Festool MFT

โต๊ะ festool MFT ออกแบบมาเพื่อำงานไม้โดยเฉพาะ สำหรับคนที่ทำงานคนเดียว MFT ย่อมาจาก Multi – Function – Table คือโต๊ะทำงานเอนกประสงค์นั่นเอง จุดเด่นคือการ Clamp งานเข้ากับโต๊ะ และพกพาสะดวก เพราะมีขนาดกระทัดรัด และน้ำหนักเบา

ส่วนประกอบและการใช้งาน

clamp งานได้พร้อมกันทั้งแนวตั้งและแนวนอน
clamp แนวนอน
clamp แนวตั้ง

การ Clamp งานบนโต๊ะ Festool MFT

  • รู Dock hold ขนาด 20 mm มาให้ สำหรับ Clamp งานกับโต๊ะ
  • ใช้งานคู่กับ quick clamp – คือใช้ได้อย่างรวดเร็ว มือเดียวก็ Clamp ได้
รั้วและฉากช่วยปรับองศา
เมื่อปรับองศาแล้ว
  • รั้วและฉากช่วยปรับองศาช่วยในการตัดไม้ – สามารถปรับองศาได้ตั้งแต่ 0 – 90 องศา ช่วยในการตัดไม้เฉียง ตามองศาที่ตั้งไว้
Stop track
  • Stop track – ช่วยในการตัดงานซ้ำๆที่ต้องการขนาดเท่ากัน เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ในการทำงานปริมาณเยอะๆ
Fence Rail Clamp
Fence Rail Clamp
  • Fence Rail Clamp – แนบส่วนรองรับรั้วกับส่วนที่อยู่ไกล ใส่ปลายพลาสติกเข้าไปในช่อง T ขันให้แน่นเพื่อให้รั้วแน่น
  • กรณีเปลี่ยนรั้วเป็นตั้งตรง ขันสกรูให้แน่นกับรั้ว สำหรับรั้วตั้งตรง ให้เลื่อนปุ่มสปริงไปที่ตำแหน่งด้านหลังในส่วนรองรับรั้ว ติดราวกั้นรั้วอีกครั้ง ขันให้แน่น
Guide Rail
  • รางนำตัด – ช่วยในการตัดไม้ระนาบตรง ใช้คู่กับเลื่อยราง และ ทิมเมอร์
Deflector
  • Deflector- ติดตัวเบี่ยงท่อดูดฝุ่น เพื่อความกระชับและปลอดภัยในการทำงาน
Guide Rail support
  • Guide Rail support – ตัวรองราง ช่วยยึดและปรับความสูง/ต่ำให้รางแนบสนิทกับแผ่นไม้
ประแจ 6 เหลี่ยม
  • ประแจ 6 เหลี่ยม – ใช้สำหรับไขน็อตบนโต๊ะ

วิธีการใช้งานเลื่อยราง บนโต๊ะเอนกประสงค์

Crosscut ด้วยเลื่อยราง
  • กรณีตัด Crosscut หรือ ตัดแบบขวางเสี้ยน

นำ Guide Rail วางบนแผ่นไม้ โดยปรับตัวรองรางให้เสมอกัน

นำเลื่อยรางวางบน ราง แล้วทำการตัดได้ทันที

Miter cut ด้วยเลื่อยราง
  • กรณีตัด Miter cut หรือการตัดเฉียง

ใช้ปรับเกจเองศาที่โต๊ะเอนกประสงค์ ไปที่องศาที่ต้องการ แล้วนำแผ่นไม้วาง

นำ Guide Rail วางลงบนแผ่นไม้ เอาเลื่อยวางบนราง แล้วทำการตัดได้ทันที

Compound cut ด้วยเลื่อยราง
  • สามารถตัด Compound cut หรือ การตัดเฉียง และเอียงระนาบไปพร้อมกันได้ด้วย

โดยปรับความเอียงขององศาใบเลื่อย ไปที่องศาที่ต้องการ

ปรับเกจเองศาที่โต๊ะเอนกประสงค์ ไปที่องศาที่ต้องการ แล้วนำแผ่นไม้วาง

นำ Guide Rail วางลงบนแผ่นไม้ เอาเลื่อยวางบนราง แล้วทำการตัดได้ทันที

ท่ายืนที่เหมาะสมในการใช้งานเลื่อยราง
  • ท่ายืนที่เหมาสม – ในการใช้งานเลื่อยราง คือ ยืนและจับเลื่อยแบบมั่นคง นำสายไฟไว้ด้านหลัง แล้วค่อยๆเลื่อนเลื่อยไปบนรางช้าๆ เพื่อให้ได้รอยตัดที่เรียบและแม่นยำ

บทสรุป

เลื่อยราง เป็นเลื่อยที่มีความแม่นยำในการตัดสูง และประสิทธิภาพโดยรวมที่ยอดเยี่ยม เลื่อยรางทำให้คุณทำงานไม้เองได้ง่ายขึ้นเมื่อใช้คู่กับโต๊ะเอนกประสงค์ และเมื่อรู้วิธีใช้เลื่อยรางแล้ว คุณจะสามารถเลือกใช้เลื่อยรางได้เหมาะสมกับลักษณะงานต่อไปของคุณ

What do you think?

Comments

Comments

Loading…

0
ตลับเมตร

รีวิว ตลับเมตร stanley 5 เมตร STHT30496-30L ราคาถูก แต่ทนมาก

เครื่องปั่นไฟ

โครงสร้างต่างๆของ เครื่องปั่นไฟกระแสสลับ