คุณจะเลือกซื้อ เครื่องพ่นปุ๋ย อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

เครื่องพ่นปุ๋ย คืออะไร

เครื่องพ่นปุ๋ย หรือ เครื่องพ่นยา เป็นอุปกรณ์แบบใช้มอเตอร์ที่สามารถใช้จ่าย น้ำยาพ่นจำนวนมากได้ เครื่องพ่นสารเคมีขนาดใหญ่เหล่านี้สวมทับไหล่ เช่น กระเป๋าเป้สะพายหลัง และมาพร้อมกับหัวฉีดเพื่อผลิตละอองที่ละเอียดแต่ทรงพลัง สามารถใช้รักษาพื้นที่กลางแจ้งขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ 

---

การใช้งาน เครื่องพ่นปุ๋ย 

ความน่าสนใจหลักของเครื่องพ่นปุ๋ย คือความเร็ว และประสิทธิภาพในการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่ สำหรับเจ้าของธุรกิจที่มีที่ดินจำนวนมาก เช่น ไร่องุ่น สวนผลไม้ เป็นต้น นี่เป็นวิธีแก้ไขขอววัชพืชได้อย่างสมบูรณ์แบบ เครื่องพ่นปุ๋ยสามารถช่วยให้รักษา พืชพันธฺของคุณได้อย่างรวดเร็ว โดยทำด้วยตัวเองได้ 

---

เครื่องพ่นปุ๋ย ทำงานอย่างไร

เครื่องพ่นปุ๋ยทำงานโดยการจ่ายน้ำยาจากถังเก็บน้ำโดยใช้ก้านฉีด และหัวฉีด ตัวถังต้องได้รับแรงดันเพื่อให้สเปรย์ทำงาน โดยปกติแล้วจะใช้แรงดันโดยใช้ปั๊มแบบก้านโยกที่ทำงานด้วยมือ ซึ่งต้องใช้อย่างต่อเนื่องในระหว่างการฉีดพ่น

เมื่อตั้งค่าสำหรับการใช้งานแล้ว เครื่องพ่นปุ๋ยจะพ่นยาออกมาเป็นละอองละเอียด เพียงแค่เล็งหัวฉีดของคุณไปยังบริเวณที่คุณต้องเครื่องพ่นปุ๋ยที่ดีที่สุดจะมีสเปรย์ทรงพลังที่ยาว 5 เมตรขึ้นไป ช่วยให้คุณรักษาพื้นที่ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โปรดทราบว่าคุณอาจต้องเดินเป็นระยะทางไกลเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ 

---

อุปกรณ์ เครื่องพ่นปุ๋ย 

ถัง เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องพ่นปุ๋ยที่บรรจุสารเคมีเหลว เช่น ยาฆ่าแมลง หรือสารกำจัดวัชพืช เติมสารเคมีที่คุณเลือกลงในถังก่อนใช้เครื่องพ่นปุ๋ย สำหรับควบคุมศัตรูพืช ปริมาตรของถังจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น และโดยทั่วไปจะอยู่ในช่วงตั้งแต่ 2 – 5.5 แกลลอน ความจุที่คุณเลือกจะขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของคุณ เช่น พื้นที่คุณต้องใช้

ปั๊มบน เครื่องพ่นปุ๋ย

มักจะใช้มือโดยใช้คันโยก สิ่งนี้จะทำให้เกิดแรงกดดันต่อถัง ทำให้สารเคมีที่เป็นของเหลวภายในถูกขับออกมาอย่างแรงเป็นละอองละเอียด คุณจะต้องปั๊มที่จับอย่างต่อเนื่องในขณะที่ฉีดพ่นเพื่อรักษาแรงดันและให้ยาฆ่าแมลงไหล

ด้ามพ่นปุ๋ย

เป็นท่อกลวงที่ยื่นออกมาจากถังของเครื่องพ่นปุ๋ย และใช้ในการจ่ายยาฆ่าแมลงภายใน สามารถติดหัวฉีดเข้ากับก้านฉีดเพื่อสร้างละออง และจะแตกต่างกันไปตามประเภทของสารเคมี และปริมาณที่คุณต้องการจ่ายนั่นเอง 

หัวฉีด

ติดอยู่ที่ปลายก้านฉีด และเปลี่ยนหัวฉีดของสารกำจัดศัตรูพืชให้เป็นละอองเมื่อฉีดพ่น หัวฉีดมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับชนิดของสารเคมีที่คุณใช้ หัวฉีดทรงกรวยกลวงมักใช้สำหรับยาฆ่าแมลง ในขณะที่หัวฉีดแบบพัดลมมักใช้สำหรับสารกำจัดวัชพืช 

สายรัดหรือสายรัดของ เครื่องพ่นปุ๋ย

มีไว้เพื่อให้เข้าที่อย่างแน่นหนาระหว่างการใช้งาน สิ่งสำคัญคือต้องมีทั้งทนทานและสบาย โดยเฉพาะถ้าคุณมีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ต้องบำบัดและจะใช้เครื่องพ่นปุ๋ยเป็นเวลานาน

---

คู่มือการซื้อเครื่องพ่นปุ๋ย 

คุณต้องการความจุถังเท่าไร? ความจุถังของเครื่องพ่นปุ๋ยโดยทั่วไปมีตั้งแต่ 2 – 5.5 แกลลอน ขนาดที่คุณต้องการซื้อจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ 

---

คุณต้องรักษาที่ดินเท่าไหร่

หากคุณมีพื้นที่หลายไร่ที่จะฉีดพ่น วิธีที่ดีที่สุดคือเลือกเครื่องพ่นปุ๋ยที่มีความจุถังขนาดใหญ่ วิธีนี้จะทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะคุณสามารถฉีดทุกอย่างได้ในครั้งเดียว โดยไม่ต้องหยุด และเติมน้ำยาพ่น ผู้ที่มีสวนผลไม้ ไร่องุ่น เป็นต้น หรือที่ดินขนาดใหญ่อื่นๆ อาจต้องการพิจารณาเครื่องพ่นปุ๋ยที่มีความจุอย่างน้อย 4 แกลลอน

ถ้าคุณต้องการใช้งานเพียงแค่ในสวนหลังบ้านของคุณ ขนาดถังที่เล็กกว่าอาจเพียงพอ เครื่องพ่นปุ๋ยขนาดใหญ่อาจหนักมากเมื่อเต็ม ความรู้สึกไม่สบายที่ไม่จำเป็นหากคุณมีที่ดินค่อนข้างเล็กที่ต้องรักษา

รับน้ำหนักได้เท่าไหร่ เครื่องพ่นปุ๋ยมีน้ำหนักมากเมื่อเต็ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเลือกรุ่นที่มีความจุถังขนาดใหญ่ เครื่องพ่นปุ๋ยที่มีถังขนาด 4 แกลลอนสามารถชั่งน้ำหนักได้มากถึง 30 กิโลกรัมเมื่อเต็ม ซึ่งอาจยากต่อการพกพาเป็นเวลานาน หากนี่คือสิ่งที่คุณอาจต้องเผชิญ ให้เลือกรุ่นที่มีถังขนาดเล็ก หรือมองหารุ่นที่มีการกระจายน้ำหนักที่ดีเพื่อให้ถือเครื่องพ่นปุ๋ยได้ง่ายขึ้นนั่นเอง 

---

คุณสมบัติหลักที่คุณควรมองหา 

คุณต้องการหัวฉีดแบบไหน

หัวฉีดเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของเครื่องพ่นปุ๋ยของคุณ เนื่องจากจะควบคุมอัตรา และปริมาตรที่ฉีดพ่น การเลือกหัวฉีดมีความสำคัญมากกว่าที่คุณคิด เนื่องจากมีการใช้ประเภทต่างๆ เพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันมี 2 ประเภทหลักสำหรับการฉีดพ่นคือหัวพัดลม และหัวกรวย

หัวฉีดทรงกรวยกลวง จะจ่ายน้ำยาปุ๋ยในละอองละเอียด ซึ่งฉีดพ่นในรูปแบบกรวยกลวง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการรักษาใบไม้ พืชพันธ์ุเนื่องจากช่วยให้มั่นใจได้ว่าพื้นที่ฉีดพ่นทั้งหมดจะครอบคลุม และทั่วถึง หัวฉีดทรงกรวยเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับใช้กับสเปรย์ฆ่าแมลง

หัวฉีดแบบรูปพัด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจ่ายของเหลวให้กระจายไปทั่วบริเวณที่ฉีดพ่น และสร้างละอองขนาดเล็กเพื่อให้ครอบคลุมมากขึ้น ต้องวางหัวฉีดเหล่านี้ไว้เหนือใบไม้โดยตรงจึงจะฉีดพ่นได้ จึงไม่เหมาะสำหรับการรักษาต้นไม้ที่มีความสูงเกิน 0.5 ม. อย่างไรก็ตาม หัวฉีดพัดลมแบบปากคู่สามารถใช้ฉีดพ่นละอองน้ำในสองทิศทางที่แตกต่างกัน ซึ่งช่วยให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นสำหรับพุ่มไม้พุ่ม เตียงดอกไม้ และหญ้า

ถังควรขนาดไหน

เมื่อเลือกปริมาตรถังที่เหมาะกับคุณ สิ่งสำคัญคือต้องชั่งน้ำหนักสองปัจจัย คุณต้องรักษาที่ดินเท่าไหร่ และคุณสามารถบรรทุกได้มากแค่ไหน การเลือกเครื่องพ่นปุ๋ยที่มีถังขนาด 2 แกลลอนขนาดเล็กอาจดูสมเหตุสมผลในแง่ของน้ำหนักที่ลดลง แต่ถ้าคุณมีหลายพื้นที่ต้องจัดการ แสดงว่าคุณเสียเวลามากกับการหยุดเติมน้ำมัน ถังขนาดใหญ่ 6 แกลลอนอาจหมายความว่าคุณสามารถทำงานให้เสร็จได้ในครั้งเดียว แต่อาจไม่สะดวกที่จะพกพาเป็นระยะเวลานานเท่านั้นเอง 

“โดยทั่วไปแล้ว ถังขนาด 4 แกลลอนเป็นมาตราฐานสำหรับการใช้งานโดยทั่วไปอยู่แล้ว” 

---

คำแนะนำสำหรับการใช้เครื่องพ่นปุ๋ย 

รักษาความเร็วในการเดินให้คงที่

เวลาฉีดพ่นเร็วแค่ไหนสำคัญกว่าที่คุณคิด ถ้าคุณเดินเร็ว คุณจะใช้ยาฆ่าแมลงน้อยลง เดินช้าเกินไป และคุณมีความเสี่ยงที่จะพ่นยาเกินขนาด คุณควรเลือกความเร็วในการเดินที่สม่ำเสมอซึ่งคุณสามารถรักษาไว้ได้ตลอดการรักษา ไม่ว่าคุณจะเดินบนพื้นราบหรือบนทางลาด สิ่งนี้จะช่วยให้คุณบรรลุถึงความครอบคลุมที่สม่ำเสมอของทุกพื้นที่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

รักษาความดันสม่ำเสมอ

แรงดันหัวฉีดของคุณจะส่งผลต่อปริมาณการจ่ายสารกำจัดศัตรูพืชในระหว่างการฉีดพ่นด้วย การรักษาความดันสม่ำเสมอตลอดการรักษาเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้แน่ใจว่าครอบคลุมสม่ำเสมอและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ตั้งเป้าที่จะรักษาแรงดันหัวฉีดให้อยู่ระหว่าง 15 – 20 PSI เมื่อฉีดพ่น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอและครอบคลุมสม่ำเสมอ

ป้องกันการรั่วไหล ตรวจสอบสนิม การสึกหรอ

เครื่องพ่นปุ๋ยที่รั่วอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อผู้ใช้ ด้วยสารกำจัดศัตรูพืชที่เป็นอันตรายในระหว่างการฉีดพ่น การป้องกันการรั่วไหลจึงมีความสำคัญต่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายของคุณเมื่อฉีดพ่น

เมื่อนำเครื่องพ่นสารเคมีสะพายหลังออกสำหรับฤดูกาล ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตรวจสอบสนิม การสึกหรอ และการฉีกขาดอย่างละเอียดถี่ถ้วน ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับปั๊ม ท่อ และแคลมป์เมื่อตรวจสอบการรั่วและการแตกหัก

ตรวจสอบหัวฉีดและตะแกรงอย่างสม่ำเสมอ

หัวฉีดอุดตันหรือหน้าจออินไลน์อาจทำให้เกิดการรั่วไหลได้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังส่งผลให้รูปแบบการพ่นสเปรย์ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งสามารถลดประสิทธิภาพของเครื่องพ่นสารเคมีสะพายหลังของคุณได้ ตรวจสอบทั้งหัวฉีดและหน้าจอในสายการผลิตอย่างระมัดระวังเพื่อหาฝุ่น และเศษผง ซึ่งอาจจำกัดการไหลในแต่ละครั้งที่คุณใช้เครื่องพ่นปุ๋ย 

ทำการทดสอบประจำปี

จำเป็นต้องทดสอบเครื่องพ่นปุ๋ยเป็นประจำเพื่อให้มั่นใจว่าใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรทำอย่างน้อยปีละครั้ง และจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากเครื่องพ่นปุ๋ย ของคุณ นี่เป็นกระบวนการที่ต้องใช้การทดลองเล็กน้อย และการคำนวณเล็กน้อย แต่ท้ายที่สุดแล้วจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องพ่นปุ๋ยของคุณ

เครื่องพ่นปุ๋ยเป็นมีประโยชน์ในการควบคุมศัตรูพืช และบำรุงรักษาพืชพันธ์ เนื่องจากสามารถครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว 

เช็คราคา เครื่องพ่นปุ๋ย