10 ข้อผิดพลาดการใช้งาน เครื่องมือช่าง ที่พบบ่อยในงานไม้

by Simon Harper พฤษภาคม 11, 2021, 10:08 am 13.3k Views

ปัญหาของ เครื่องมือช่าง ที่พบบ่อยในงานไม้

มีงานไม้ที่สวยงามมากมายต่างๆ และการได้เห็นงานไม้พวกนี้ก็เป็นแรงบัลดาลใจ ที่อยากให้เราทำตามได้ แต่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับผู้เริ่มต้น แต่ทุกคนก็สามารถเริ่มต้นได้ เพียงแค่คุณต้องรู้วิธีการ ใช้งานเครื่องมือช่าง ในการทำงานไม้ให้ถูกวิธี ในบทความนี้ผมจะมาบอกข้อผิดพลาดที่สามารถพบบ่อยในงานไม้ส่วนใหญ่ และวิธีหลีกเหลี่ยงที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์พวกนี้กับคุณ

1. รอยตัดของไม้

ถ้าคุณต้องตัดไม้ด้วยเครื่องมือช่างของคุณ ยกตัวอย่างเช่น เลื่อยจิ๊กซอว์ คุณจะต้องวัด และทำเครื่องหมายลงบนไม้ที่คุณต้องการตัดก่อน พอวัดมุมที่จะตัดเรียบร้อยแล้ว ค่อยเริ่มทำการตัดไม้ของคุณ อย่างช้าๆไม่ต้องรีบร้อน รอยจะถูกกำหนดโดยความกว้างของใบมีดที่ตัด (โดยปกติคือ 1/8 ของนิ้ว) แต่บางครั้งยังรวมถึงการโยกเยก ของเครื่องมือช่างในการตัด (แล้วแต่กรณี) และขนาดของวัสดุนั้นๆ นั่นเป็นเหตุผลที่คุณต้องคิดก่อนที่จะเริ่มการตัดไม้ของคุณนั่นเอง

ตัดบางส่วนให้เป็นวัสดุสดให้เป็นเศษวัสดุ จากนั้นฝึกดินสอของช่างไม้ให้มีความกว้างของก้าน ตอนนี้เมื่อคุณทำการตัดมัน จะตรงกับแนวของเครื่องหมายของคุณ วัดการตัดครั้งต่อไปของคุณจากคมตัดใหม่ และไม่ของคุณที่ตัดจะไม่มีเลยอีกเลย

2.รอยแตกของไม้

Blowout (บางครั้งเรียกว่า “tearout”) เป็นชื่อเรียกที่ไม่ดีเท่าไหร่สำหรับ ช่างไม้ เมื่อชิ้น หรือเส้นใยของไม้ถูกฉีกออกด้านหลังใบเลื่อย มันสามารถเกิดขึ้นได้กับการตัด แบบใดก็ได้ของเครื่องมือช่างเช่น โต๊ะเลื่อย หรือเลื่อยวงเดือน แม้แต่เราเตอร์ หลีกเลี่ยงการแตกหักของไม้โดยไม่จำเป็น ให้ความสนใจกับใบมีดของคุณ ก่อนที่คุณจะเริ่มทำงาน ใบมีดทื่อจะทำให้ไม้ฉีกขาดมากที่สุด เมื่อตัดออกควรหลีกเลี่ยงด้วยเหตุนี้และเพื่อความปลอดภัย คุณควรลับใบมีด ตรวจเช็คให้เรียบร้อยก่อนเริ่มใช้งาน ในทำนองเดียวกันให้เลือกใบมีดที่เหมาะสมกับงาน ใบเลื่อยที่มีฟันน้อยจะตัดได้เร็วขึ้น แต่ส่งผลให้มีการฉีกขาดมากขึ้น ฟันบนใบมีดจะต้องใช้มือที่ช้าลง แต่ส่งผลให้การตัดสะอาดขึ้น คุณมักจะพบใบมีดพิเศษสำหรับวัสดุเช่น OSB

ผมแนะนำเคล็ดลับอีกอย่าง คือการปกป้องวัสดุด้วยเทป วางเทปไว้ด้านข้างที่ใบมีดจะโผล่ออกมาจากพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่ที่มีแนวโน้มที่จะดีมากที่สุด การแตกหักเป็นหนึ่งในปัญหาที่ยังคงเป็นปัญหาสําหรับงานไม้ของคุณ แต่การเรียนรู้วิธีจัดการกับมันในช่วงต้นก็สามารถลดความลำบากใจของคุณได้ไม่มากก็น้อยการฉีกขาดเกิดขึ้นเมื่อไม้ชิ้นเล็กๆ ถูกนำออกมารอบๆส่วนที่คุณตัด มันสามารถเกิดขึ้นได้กับการตัดทุกประเภท ด้วยเครื่องมือช่างส่วนใหญ่ สาเหตุหนึ่งของการฉีกขาดคื อใบมีดทื่อ บิ่น งอ ดังนั้นควรตรวจสอบใบมีดของคุณอีกครั้งก่อนทำการตัด นอกจากนี้หากคุณใช้ใบมีดที่มีฟันมากขึ้น คุณจะได้รับการตัดที่สะอาดกว่าแม้ว่าคุณจะต้องตัดช้าลงก็ตาม

3. สภาพแวดล้อมที่สกปรก

มันก็เป็นเรื่องยาก ที่จะทำงานไม้สะอาด เพราะมีขี้เลื่อย เศษไม้ต่างๆ กองอยู่เต็มไปหมด คุณเองก็น่าจะรู้ใช่ไหม? แต่สำหรับงานบางงานสภาพแวดล้อมอาจเป็นปัจจัยสำคัญพอๆ กับงานฝีมือของคุณ การทำงานไม้ให้เสร็จสมบูรณ์อาจเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง แต่ถ้าคุณเคยเลื่อยไม้ และรอบๆเต็มไปด้วยฝุ่น และเศษขยะต่างๆ เมื่อคุณวางเครื่องมือช่างของคุณ พวกเศษฝุ่น เศษไม้ทั้งหมดจะเกาะติด กับเครื่องมือช่างของคุณ และจะทำให้งานของคุณเสียหาย และทำลายความสวยงามของงานได้

4. กำจัดเศษผ้าที่เป็นอันตราย

เรามาพูดคุยเกี่ยวกับการกำจัดเศษผ้ากันดีกว่า หากคุณเป็นเหมือนคนส่วนใหญ่เวลาใช้ผ้าเช็ดอะไรแล้วก็ตามแล้วโยนเศษผ้าที่ใช้แล้วทิ้งลงถังขยะ คุณคิดว่าถูกต้องหรือไม่? ผมตอบเลยว่าไม่ เพราะผ้าที่เช็ดในงานไม้ส่วนใหญ่มักมีคราบน้ำมัน และผิวเคลือบที่ใช้กันทั่วไปในงานไม้แบบแห้ง ที่ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “ออกซิเดชั่น” การออกซิเดชั่นก่อให้เกิดความร้อน และเศษผ้าที่ยับยู่ยี่ซึ่งจะระบายความร้อนได้ดีมากตามรอยพับปล่อยให้อุณหภูมิสร้างขึ้น แต่หากคุณโชคไม่ดีอุณหภูมิจะสูงพอที่จะทำให้เกิดไฟไหม้ได้ (ซึ่งสำหรับเศษผ้าฝ้ายก็ไม่ได้สูงขนาดนั้น)

ผมมีขั้นตอนการกำจัดเศษผ้าทั้งหมดคือ เพียงแค่คุณกระจายเศษผ้าที่ใช้แล้ว ให้แบน หรือวางผ้าไว้เหนือขอบของสิ่งของที่ไม่ติดไฟ เช่นอ่างล้างจาน พื้นที่โล่งๆ ปล่อยให้แห้งจนกว่าผิวจะแห้งสนิท ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาไม่นานก็แห้ง เมื่อเศษผ้าเเห้งแล้ว คุณก็สามารถทิ้งลงในถังขยะได้อย่างปลอดภัย

5. ใช้งาน เครื่องมือช่าง ผิดประเภท

งานไม้ อาจดูเหมือนงานฝีมือที่ต้องใช้ความปราณีต ถ้าคุณใช้งานเครื่องมือช่างที่ผิดประเภท มันก็จะทำให้งานไม้ของคุณพังลงได้ มีเครื่องมือช่าง ที่พิเศษมากมายนับไม่ถ้วน และอาจเป็นเรื่องยากที่จะทำให้มันสำเร็จทั้งหมด ทักษะที่สำคัญในการพัฒนา คือการทำความเข้าใจว่า เครื่องมือช่างชนิดไหน เหมาะกับงานแบบไหน ในบางครั้งงานที่ดูยากลำบากก็สามารถทำได้ง่ายๆถ้าคุณใช้งานเครื่องมือช่างที่เหมาะสม และถูกประเภท ถ้าคุณมีความเข้าใจในการใช้งาน เครื่องมือช่าง การทำงานต่างๆของคุณก็จะง่ายดาย

6. เกิดรอยไหม้ เวลาตัดไม้

อาจไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่นักสำหรับช่างไม้ แต่บางคนที่กำลังเริ่มต้นงานไม้อาจจะรู้สึกประหลาดใจที่ได้รู้ว่ารอยไหม้พวกนี้มาจากไหน รอยไหม้พวกนี้ที่เกิดจากเลื่อย และใบมีดของเราเตอร์ มันไม่ใช่จากตัวไม้ เพราะแรงเสียดสี การสั่นสะเทือน รอยไหม้จากใบมีดค่อนข้างง่ายที่จะกำจัดออก รอยไหม้สามารถไส หรือขัดออกได้ หรือดีกว่านั้นให้หลีกเลี่ยง โดยการใช้ใบมีดที่คม และสะอาด

อย่างไรก็ตามการเบิร์นของเราเตอร์ อาจเป็นเรื่องยากที่จะไม่ให้เกิด เนื่องจากความซับซ้อนของเราเตอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการไหม้ของเราเตอร์ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณกำลังทำความสะอาดใบมีดเราเตอร์ของคุณ หลังจากทำงานแต่ละงานหรือยัง เศษฝุ่นสามารถสะสมบนพื้นผิวเล็กน้อย และทำให้หน้าโลหะร้อนเร็วขึ้น สิ่งนี้จะเพิ่มโอกาสให้งานของคุณไหม้ในครั้งถัดไปได้ และความร้อนที่สูงขึ้นจะทำให้ใบมีดทื่อเร็วขึ้น ดังนั้นทำความสะอาดใบมีดของคุณ และคุณจะประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณอีกด้วย

7. ใบมีดบิต ทื่อ

ใบมีดที่ทื่อ เป็นสิ่งไม่ดีต่องานไม้ ดังที่ผมกล่าวไปในข้อที่6 ใบมีดที่ทื่อ และสกปรกจะร้อนเร็วขึ้น และมีแนวโน้มที่จะทำให้ไม้ของคุณไหม้ได้ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะทำให้ไม้ของคุณแตก และพังได้ คุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินไปกับใบมีดใหม่ทั้งหมด การลับคมก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สามารถช่วยให้คุณพิจารณาได้ว่าใบมีดใดที่ควรค่าแก่การเหลาใหม่ และใบไหนควรเปลี่ยน ใบเลื่อยที่มีคุณภาพอาจเป็นการลงทุนที่มีราคาแพง แต่ด้วยการลับคมใหม่อย่างรอบคอบ และมีประสิทธิภา ด้วยการลับคมสมัยนี้ง่ายกว่าเมื่อก่อนมากไม่ต้องใช้แรงมากมาย เพียงแค่คุณชำนาญ คุณก็สามารถใช้งานไปได้นานเหมือนกันครับ

8. ความชื้นของไม้

ไม้เกิดจากต้นไม้หลายชนิด คุณสมบัติในด้านต่างๆ ที่จะนำมาใช้ประโยชน์ จึงมีความแตกต่างกันไป ไม้แต่ละชนิดย่อมเหมาะสมกับงานแต่ละอย่างมากน้อยไม่เหมือนกัน ในงานก่อสร้าง เรามักคำนึงถึงความแข็งแรง และความทนทาน ในประดิษฐกรรม เครื่องเรือน หรือส่วนประกอบเครื่องจักรกล ซึ่งต้องการความสวยงาม เราอาจคำนึงถึงลวดลายในไม้ การหด หรือการพองตัว ความยากง่ายในเลื่อย การไสกบ ตกแต่ง ตลอดจนการลงน้ำมัน ยกตัวอย่างเช่น การทำลังใส่ของ เราสนใจถึงปริมาณส่วนประกอบทางเคมีของไม้ และลักษณะของเส้นใย รวมทั้งความยากง่ายในการฟอกสี ไม้จะมีการปรับความชื้นในให้ในสมดุลกับความชื้นในบรรยากาศ ให้สอดคล้องกับสภาวะอากาศอยู่ตลอดเวลา ซึ่งความชื้นสัมพันธ์ของบรรยากาศแต่ละที่ก็มีความแตกต่างกัน จึงต้องมีการปรับความชื้นของไม้ให้สมดุล กับความชื้นในแต่ละสถานที่ ที่มีสภาวะอากาศต่างกัน เพื่อนำไม้มาใช้งาน โดยไม่ให้คุณสมบัติของไม้นั้นลงลดไป

9. การตัดไม้ส่วนเกินออก

ไม่มีไม้ที่ดที่สมบูรณ์แบบ แต่คุณสามารถตัดส่วนที่ไม่ต้องการออกได้ ไม่ช้าก็เร็วในงานไม้ คุณจะพบการอ้างอิงถึง “การริป” (ผ่า ตัด ฉีก) ของไม้ หากคุณไม่แน่ใจว่าการริปคืออะไร เพียงแค่ตัดกระดานตามยาว แม้ว่าสิ่งนี้จะทำได้โดยทั่วไปด้วยเลื่อยโต๊ะ แต่ก็มีเครื่องมือหลายอย่างที่คุณสามารถทำได้เมื่อฉีกกระดานไม้ แต่บางครั้งอาจเป็นเรื่องยากที่จะได้รับการฉีกขาดที่เหมาะสม และสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้สามารถสะท้อนไปทั่วงานที่เหลือของคุณ และทำให้งานของคุณยุ่งเหยิง แม้ว่าทุกอย่างจะดูสมบูรณ์แบบก็ตาม

10. ขี้เกียจจัดการ

อย่าขี้เกียจกับมัน ท้ายที่สุด เมื่อคุณทำงานการตัดไม้ของคุณเสร็จเรียบร้อย คุณควรทำความสะอาด เครื่องมือช่างของคุณ พวก ใบมีด ใบเลื่อย หรือแม้แต่อุปกรณ์ในการใช้งานต่างๆ ให้สะอาดเรียบร้อย แล้วจึงเก็บเข้าที่ รวมถึงพื้นที่การใช้งาน เก็บกวาด เศษไม้ เศษฝุ่นให้พ้นจากโต๊ะทำงานของคุณ เพื่อที่การทำงานครั้งต่อไปจะได้สะดวกสบายมากขึ้น