วิธีการใช้งาน โต๊ะเลื่อยวงเดือน สำหรับผู้เริ่มต้น

ไม่ว่าจะเป็นช่างไม้ในประเทศหรือในเชิงอุตสาหรกรรม โต๊ะเลื่อยวงเดือน ยังคงเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับช่างไม้ส่วนใหญ่ ในบรรดาเครื่องมือทั้งหมด เนื่องจากเครื่องนี้สามารถทำงานตัดไม้ได้หลากหลายตั้งแต่การริป การตัดขวาง และการตัดแบบองศาไปจนถึงการทำแรบเบทและดาโด และแม้แต่การปรับขอบไม้ ด้วยอุปกรณ์จับยึดที่เหมาะสม คุณสามารถตัดข้อต่อกล่อง ข้อต่อร่องฟัน เดือยสำหรับรองร่องฟันและข้อต่อเดือย และอื่นๆ อีกมากมายได้ อย่างไรก็ตาม โต๊ะเลื่อยวงเดือน เป็นเครื่องมือที่ซับซ้อน และจะต้องใช้ทักษะและประสบการณ์จึงจะสามารถใช้เทคนิคการตัดเฉพาะทั้งหมดได้ เราจะมาพูดถึงข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีใช้โต๊ะเลื่อยอย่างถูกต้อง พร้อมด้วยคำแนะนำและเคล็ดลับที่มีประโยชน์ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากเครื่องมือของคุณ

• หากคุณกำลังจะซื้อ โต๊ะเลื่อยวงเดือน ควรเลือกควรเลือกจากหัวข้อต่อไปนี้
• เรื่องน่ารู้ของ “โต๊ะเลื่อย” วงเดือน สำหรับมือใหม่

เนื่องจากโต๊ะเลื่อยวงเดือน เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ และ เครื่องมือช่างไม้ ที่นิยมใช้กันมากที่สุดชนิดหนึ่ง โต๊ะเลื่อยวงเดือนมักประกอบด้วยใบเลื่อยวงเดือนที่ติดตั้งบนโต๊ะหรือขาตั้ง และมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีพลัง รุ่นทันสมัยหลายรุ่นมีตัวเก็บฝุ่นสำหรับเชื่อมต่อกับเครื่องดูดฝุ่นเพื่อการทำงานอย่างเป็นระบบ โดยปกติ โต๊ะเลื่อยทั้งหมดจะมีส่วนประกอบพื้นฐานเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม การออกแบบตัวเครื่องอาจแตกต่างกันบ้างขึ้นอยู่กับประเภทโต๊ะเลื่อย

โต๊ะเลื่อยวงเดือนมีหลากหลายประเภท หลายขนาด แล้วแต่ลักษณะการใช้งาน ขนาดของเลื่อยจะกำหนดขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางของใบเลื่อย ซึ่งสามารถเลือกขนาดที่จะตัด ตามการใช้งาน ตั้งแต่ขนาดงานโมเดลไปจนถึงงานก่อสร้างขนาดใหญ่ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของขนาดใบเลื่อยและชิ้นงานที่จะตัด ขนาดยกตัวอย่างขนาดโต๊ะเลื่อยวงเดือน เช่น

• โต๊ะเลื่อยวงเดือน 4 นิ้ว
• โต๊ะเลื่อยวงเดือน 8 นิ้ว
• โต๊ะเลื่อยวงเดือน 10 นิ้ว (นิยมใช้กันมากที่สุด)
• โต๊ะเลื่อยวงเดือน 12 นิ้ว
• โต๊ะเลื่อยวงเดือน 16 นิ้ว

นอกจากขนาดใบเลื่อยแล้ว จำนวนฟันของใบเลื่อย ก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเช่นกัน เพราะยิ่งมีจำนวนซี่ฟันที่มาก ก็จะทำให้ตัดไม้ได้ละเอียด รอยตัดจะเรียบเนียน ไม้ไม่ฉีก เช่นการตัดแบบเฉียง หรือการตัดที่ต้องขวางเซี่ยนไม้ แต่ถ้าเลือกใบที่มีจำนวนซี่ฟันที่น้อย ก็จะทำให้ตัดได้เร็ว แต่ไม่ละเอียด เช่น การตัดไม้ตามแนวตรง ที่ไม่ต้องใช้ความปราณีตและแรงมาก

• ข้อเปรียบเทียบระหว่าง เลื่อยราง กับโต๊ะเลื่อย ที่ไม่ได้ทำงานได้คล้ายกัน

1. Benchtop Table Saw

โต๊ะเลื่อยแบบตั้งโต๊ะ มีน้ำหนักเบาและราคาก็ไม่สูงเหมือนโต๊ะเลื่อยแบบอื่น นอกจากนี้ยังสามารถเป็นเครื่องมือพกพาไปทำงานนอกสถานที่เพราะน้ำหนักเบาสามารถพกพาได้ง่าย

ใบมีดอยู่ด้านบนและมีมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถตัดได้อย่างแม่นยำตามการวัด โดยทั่วไปแล้ว เมื่อตัดไม้แล้วมีรอยตัดที่สะอาดและตรง แต่ด้วยราคาและขนาด มันสามารถตัดได้จำกัด เหมาะกับการตัดสิ่งที่อ่อนและขนาดเล็ก เช่น พาร์ติเคิลบอร์ด โต๊ะเลื่อยแบบตั้งโต๊ะจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้น

2. Jobsite Table Saw

โต๊ะเลื่อยไซต์งานมีขนาดใหญ่กว่าโต๊ะเลื่อยแบบตั้งโต๊ะเล็กน้อย และเมื่อไม่ได้ใช้งานใดๆ เลื่อยจะถูกเก็บไว้ในแท่นวางด้านข้างของพื้นที่ทำงาน ส่วนใหญ่ ผู้รับเหมาและช่างไม้ใช้โต๊ะเลื่อยไซต์งานที่เห็นได้ในไซต์งานเฉพาะ และเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคในเรื่องความสามารถในการทำงานที่ยากลำบากให้เสร็จได้อย่างง่ายดาย

มันยังพกพาได้ และในคุณสมบัติต่างๆ ของมัน เราพบว่ามันมีจุดยืนที่สามารถทำงานให้เสร็จในลักษณะมาตรฐานได้  มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการเก็บฝุ่นเพิ่มขึ้นเป็นคุณลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่ง นับว่าโต๊ะเลื่อยไซต์งานเป็นเลื่อยที่มีคุณภาพแบบพกพาได้อีกตัวเลยทีเดียว

3. Compact Table Saw

โต๊ะเลื่อยขนาดกะทัดรัดมีขนาดใหญ่กว่าโต๊ะเลื่อยแบบพกพาอื่นๆ  มีมอเตอร์สากลติดตั้งอยู่ในนั้นพร้อมสายพานไดรฟ์ เป็นโต๊ะเลื่อยที่มักเห็นช่างไม้ใช้   

 โต๊ะเลื่อยนี้สามารถทำงานขนาดใหญ่ๆ สำหรับวัสดุต่างๆ เช่น ท็อปโต๊ะเหล็ก มีมอเตอร์อเนกประสงค์ และการออกแบบที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับงานในไซต์ก่อสร้าง และงานที่ต้องการความแม่นยำ ด้วยขนาดกระทัดรัดนี้ สามารถพกพาโต๊ะเลื่อยนี้ออกไปทำงานนอกสถานที่ได้สบายๆ

4. Hybrid Table Saw

โต๊ะเลื่อยแบบไฮบริด ได้รับการออกแบบเพื่อแข่งขันในตลาด เป็นโต๊ะเลื่อยสำหรับผู้รับเหมาระดับไฮเอนด์ พวกมันมีข้อดีตรงราคาที่ต่ำกว่าโต๊ะเลื่อยทั่วไป

โต๊ะเลื่อยไฮบริดในท้องตลาดปัจจุบันมีตู้ปิดเพื่อช่วยปรับปรุงการเก็บฝุ่น โต๊ะเลื่อยไฮบริดบางรุ่นมีแหนบยึดกับตู้ และบางอันมีแหนบยึดโต๊ะ โดยทั่วไป รองแหนบแบบติดตั้งกับตู้จะปรับเปลี่ยนได้ง่ายกว่าที่รองแหนบแบบตั้งโต๊ะ เลื่อยไฮบริดมักจะหนักกว่าโต๊ะเลื่อยคอนสตรัคเตอร์ และเบากว่าโต๊ะเลื่อยตู้

5. Contractor Table Saw

โต๊ะเลื่อยคอนสตรัคเตอร์ สามารถทำงานขนาดใหญ่ หนัก และซับซ้อนเพื่อแข่งขันกับโต๊ะเลื่อยอื่น ๆ มีขาตั้งหรือล้อ โต๊ะเลื่อยคอนสตรัคเตอร์มีใบมีดที่ด้านหลังและเครื่องดูดฝุ่นที่อำนวยความสะดวกในการเก็บฝุ่น

พื้นที่โต๊ะที่ใหญ่ขึ้นและใบเลื่อยมีความแข็งแรงมาก โดยหลักแล้ว เราสามารถหาโต๊ะรุ่นนี้ได้ในตลาดโดยมีคุณสมบัติหลักบางอย่าง เช่น ความสามารถในการทำงานที่ทรงพลังและสายพานมอเตอร์ขนาดใหญ่ เป็นโต๊ะเลื่อยที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพที่ดี ซึ่งคุณลักษณะที่ยอดเยี่ยมคือสามารถตัดงานไม้ได้ภายในเวลาอันสั้น

6. Cabinet Table Saw

โต๊ะเลื่อยตู้มีน้ำหนักมาก เนื่องจากใช้เหล็กหล่อและเหล็กกล้าในการผลิตปริมาณมาก เพื่อลดการสั่นสะเทือนและเพิ่มความแม่นยำในการตัด ซึ่งพัฒนามาจากโต๊ะเลื่อยแบบคอนสตรัคเตอร์

โต๊ะเลื่อยตู้มีข้อดีเหนือ โต๊ะเลื่อยคอนสตรัคเตอร์ โดยมีโครงสร้างที่หนักกว่าเพื่อลดการสั่นสะเทือนและความทนทานที่เพิ่มขึ้น รองแหนบแบบติดตั้งบนตู้ (กลไกที่ประกอบเข้ากับใบเลื่อยและช่วยให้สามารถปรับความสูงและความลาดเอียงได้) การเก็บฝุ่นที่ดีขึ้นเนื่องจากมีตู้ที่ปิดสนิท และมีรอบการทำงานที่สูงมาก ส่วนมากจะพบโต๊ะเลื่อยแบบตู้ในการใช้งานเชิงพาณิชย์/อุตสาหกรรม โต๊ะเลื่อยประเภทนี้สามารถตัดไม้ได้มากถึง 500 ปอนด์ มันสามารถตัดได้เกือบทุกอย่าง เช่น เฮเซลวูดและไม้หนาทึบเป็นต้น

7. Sliding Table Saw

โต๊ะเลื่อยแบบเลื่อนหรือที่เรียกว่าเลื่อยตู้ยุโรปหรือเลื่อยแผงเป็นรูปแบบของเลื่อยตู้แบบดั้งเดิม โดยทั่วไปจะใช้ในการตัดแผ่นไม้ขนาดใหญ่และวัสดุที่เป็นแผ่น เช่น ไม้อัดหรือ MDF เลื่อยแบบโต๊ะเลื่อนมีโต๊ะเลื่อนที่ด้านซ้ายของใบมีด โดยปกติแล้วจะยึดกับแขนพับที่อยู่ใต้โต๊ะ ซึ่งใช้สำหรับการตัดขวางและริปวัสดุที่มีขนาดใหญ่กว่า โต๊ะเลื่อยวงเดือนแบบเลื่อนเป็นโต๊ะเลื่อยประเภทที่ใหญ่ที่สุด

ส่วนใหญ่จะใช้โดยผู้รับเหมาหรือผู้ผลิตรายใหญ่ ส่วนใหญ่ใช้มอเตอร์เหนี่ยวนำสามเฟสขนาด 3-5 หรือ 7 แรงม้า โต๊ะเลื่อยแบบเลื่อนมักจะประกอบด้วยมีดสำหรับหมุนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการดีดกลับ

8. Mini and Micro table saw

โต๊ะเลื่อยวงเดือนขนาดเล็ก เป็นเลื่อยที่เล็กที่สุดในบรรดาโต๊ะเลื่อยอื่น ๆ ทั้งหมด โต๊ะเลื่อยขนาดเล็กมาพร้อมกับใบมีดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 นิ้ว สามารถทำงานตัดได้ทันที โต๊ะเลื่อยนี้ส่วนใหญ่ ใช้โดยผู้ที่เป็นมือสมัครเล่นและผู้สร้างโมเดล ผู้ผลิตแบบจำลองหมายถึงแบบจำลองของอาคารหรือโครงการต่างๆ และอาจใช้ในงาน DIY ขนาดเล็กก็ได้

มันถูกใช้สำหรับสิ่งที่เล็กเกินไปและยากที่จะตัดผ่านเลื่อยอื่น ๆ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ทำงานสร้างแบบจำลองหรือสิ่งเล็กๆ น้อยๆ  ผ่านไม้หรืออะไรก็ตามที่ต้องการจะตัด

โดยทั่วไปในท้องตลาด หรือร้านค้าออนไลน์เราจะพบโต๊ะเลื่อยวงเดือนได้หลากหลายรูปแบบหลากหลายขนาด ขึ้นอยู่กับการออกแบบของผู้ผลิตแต่ละบริษัท ยกตัวอย่างเช่น

โต๊ะเลื่อยวงเดือน stanley , โต๊ะเลื่อยวงเดือน bosch , โต๊ะเลื่อยวงเดือน dewalt , โต๊ะเลื่อยวงเดือน bigwood , โต๊ะเลื่อยวงเดือน makita , โต๊ะเลื่อยวงเดือน imax , โต๊ะเลื่อยวงเดือน delton , โต๊ะเลื่อยวงเดือน nototec , โต๊ะเลื่อยวงเดือน Milwaukee , โต๊ะเลื่อยวงเดือน Festool ฯลฯ

ความปลอดภัยส่วนบุคคลไม่สามารถละเลยได้เมื่อทำงานกับเครื่องมือตัดใดๆก็ตาม ด้วยใบมีดที่ค่อนข้างใหญ่และคมมากเป็นพิเศษซึ่งหมุนด้วยความเร็วสูง โต๊ะเลื่อยทุกประเภทเป็นเครื่องมือที่มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกตัดและบาดเจ็บ ดังนั้น ก่อนที่คุณจะเริ่มการเรียนรู้เทคนิคการตัดหรือดำเนินพัฒนาทักษะของคุณให้ชำนาญ ควรใช้อุปกรณ์อย่างระมัดระวัง เพื่อให้ทำงานได้อย่างปลอดภัยสูงสุด และลดโอกาสที่ร่างกายจะได้รับบาดเจ็บให้เหลือน้อยที่สุด

1.สิ่งแรกที่ต้องทำคืออ่านคู่มือการใช้งานเพื่อติดตั้งและใช้โต๊ะเลื่อยอย่างถูกวิธี

2.สวมใส่อุปกรณ์ความปลอดภัยที่เหมาะสม เช่น ชุดป้องกัน แว่นตานิรภัย และอุปกรณ์ป้องกันหูเสมอ ไม่สวมเสื้อผ้าหลวมและเครื่องประดับที่แขน ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายในระหว่างทำงานได้

3.รักษาพื้นที่ทำงานให้สะอาดปราศจากขี้เลื่อย เศษไม้ เมื่อทำงานเสร็จ

4. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณลักษณะด้านความปลอดภัยของอุปกรณ์ป้องกันทั้งหมด (เช่น ตัวป้องกันใบมีด มีดตีนเป็ด และการป้องกันการดีดกลับ) นั้นใช้งานได้ปกติและปรับอย่างเหมาะสม

5. อยู่ในท่ายืนที่สบายและสมดุล หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวแบบกระทันหันเมื่อทำงาน

6. ห้ามสตาร์ทเครื่องโดยที่ใบมีดหมุนอยู่ หลีกเลี่ยงการเอื้อมมือไปด้านหลังหรือใกล้ใบมีดขณะที่ทำการปรับใบเลื่อย และถอดปลั๊กเครื่องทุกครั้งเมื่อเปลี่ยนใบมีด

7. ตรวจสอบชิ้นงานเพื่อหาวัตถุแปลกปลอม เช่น ตะปูและสกรู ที่อาจทำให้ใบมีดทำงานผิดปกติและได้รับความเสียหายได้

8.หลีกเลี่ยงการตัดด้วยมือเปล่า อาจใช้ที่ดันไม้หรืออุปกรณ์เสริมพิเศษที่ตัวเครื่องมีมาให้เพื่อยึด นำทาง และดันไม้ขนาดใหญ่ รวมถึงแผ่นไม้กระดานที่แคบและชิ้นงานขนาดเล็ก

โต๊ะเลื่อยวงเดือน มีความสำคัญสำหรับงานไม้ แต่เป็นอุปกรณ์ที่อันตราย อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการใช้งานโต๊ะเลื่อยวงเดือน และเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะทำงานไม้โดยไม่ใช้โต๊ะเลื่อย ดังนั้นคุณต้องเรียนรู้วิธีการใช้โต๊ะเลื่อยอย่างปลอดภัย เพื่อที่จะได้ทำงานไม้ได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

เรามีขั้นตอนง่ายๆ 5 ขั้นตอนที่คุณสามารถปฏิบัติตามได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บจากการใช้โต๊ะเลื่อยวงเดือน และใช้งานได้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้

ขั้นตอนที่ 1 การปรับความสูงของใบเลื่อย

ควรปรับความสูงของใบเลื่อยวงเดือน ให้สูงกว่าความหนาของเนื้อไม้ ประมาณ 0.2-0.5 cm สูงพอที่จะตัดเนื้อไม้ขาดแต่ไม่สูงเกินไปจนเกิดความอันตราย ยิ่งใบมีดโผล่พ้นไม้ออกมาน้อย การริบหรือเลื่อยก็จะยิ่งปลอดภัยมากขึ้น

ขั้นตอนที่ 2 ใช้ Blade Guard

โต๊ะเลื่อยจะมาพร้อมกับชุดกันใบมีด ชุดนี้มีตัวแยก นอกจากนี้ยังมีตีนตะขาบอีกด้วย ชุดป้องกันใบมีดทั้งหมดที่มีส่วนประกอบสองส่วนนี้ ซึ่งมีความสำคัญในการใช้งานโต๊ะเลื่อย

ตัวป้องกันใบมีดนี้ สามารถเพิ่มความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การ์ดพลาสติกทำให้แน่ใจว่านิ้วของคุณจะไม่อยู่ใกล้ใบมีด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อันตราย  นอกจากนี้ยังกันเศษไม้ที่กระเด็นออกมาจากการตัดไม้ได้ในระดับนึงอีกด้วย  นอกจากนี้ ยังป้องกันไม่ให้ให้เกิดอุบัติเหตุจากการดีดกลับของไม้ได้

ขั้นตอนที่ 3 ตรวจสอบให้แน่ใจว่ายึดไม้ไว้แน่นพอ

หากคุณต้องการแน่ใจว่าใช้โต๊ะเลื่อยอย่างไรจะไม่เกิดอุบัติเหตุ ให้ตรวจสอบว่าคุณยึดแผ่นไม้ไว้กับรั้วแน่นพอ และเน้นที่การตรวจให้แน่ใจว่าขอบของไม้กระดานชนกับรั้วพอดี ในขณะที่คุณดันไม้ผ่านใบมีดอย่างมั่นคงและช้าๆ

เมื่อตัดไม้ ให้ดันไปจนสุดใบมีดแล้วตีตีนผี เมื่อเสร็จแล้วให้ปิดเลื่อยและหลีกเลี่ยงการอยู่บนแนวของใบเลื่อย นี่เป็นสิ่งสำคัญในกรณีที่มีเศษไม้ที่ขาดและมีชิ้นส่วนที่ตัดติดอยู่ในใบมีดแล้วจู่ๆ ก็เกิดการดีดกลับ อาจทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้งานได้

ขั้นตอนที่ 4 วางมือให้พ้นแนวใบเลื่อย

ตัวป้องกันใบมีดสามารถป้องกันได้ในระดับนึงเท่านั้น ไม่ว่าคุณจะระมัดระวังแค่ไหน บางครั้งอาจเกิดการเสียสมาธิ และข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ หรือการวอกแวก ดังนั้นอย่าวางมือของคุณในแนวที่ใกล้กับใบมีดที่กำลังหมุนอยู่ เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้

ควรใช้ที่ดันไม้เพื่อช่วยในการตัดไม้  ให้คุณสามารถวางมือให้ห่างจากใบมีดในระยะที่ปลอดภัย ซึ่งสามารถช่วยในการตัดไม้แผ่นบาง ๆ จับไม้เลื่อนไปข้างหน้าใบมีดได้อย่างปลอดภัย

ขั้นตอนที่ 5 มีโต๊ะเสริม เพื่อรองรับไม้

ในการใช้โต๊ะเลื่อยอย่างปลอดภัย เมื่อคุณต้องตัดไม้หรือรีดไม้กระดานที่ค่อนข้างยาว ซึ่งไม้กระดานที่ยาวเมื่อถูกตัดอาจหลุดหรือเลยออกจากโต๊ะ ซึ่งคุณอาจจะเผลอเอื้อมมือไปประครองไม้ที่กำลังตกลงมา ในขณะที่ใบเลื่อยกำลังหมุน อาจเกิดแรงสะท้อนหรือดีดกลับ ทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้

วันนี้เราจะมาพูดถึงโต๊ะเลื่อยวงเดือน FESTOOL ด้วยรูปลักษณ์ในการออกแบบเพื่อการใช้งานท่ีคล่องตัว เหมาะกับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ทั้งติดตั้งภายในบ้าน ตลอดจนทำงานนอกสถานที่ก็ได้ เคลื่อนย้ายสะดวก โต๊ะเลื่อยตัวนี้ตัดไม้ได้หนาสุด 70 mm สามารถทำงานDIY หรืองานไม้อื่นๆได้สบาย อุปกรณ์ของ Festool สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องดูดฝุ่นที่แบรนด์ได้ออกแบบเพื่อเสริมความสะดวกในการใช้งาน โต๊ะเลื่อย FESTOOL จึงเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ควรค่าแก่การมีไว้ใช้งาน

• ส่วนประกอบ โต๊ะเลื่อยวงเดือน และประเภท ใบเลื่อยวงเดือนมีแบบใดบ้าง

• ปุ่มเปิด/Start – สีเขียวด้านบน
• ปุ่มปิด/Stop – สีแดงด้านล่าง

• ตัวหมุนคล้ายล็อกและดึงใบเลื่อยเข้าหาตัว – หมุนทวนเข็มนาฬิกาแล้วดึงเข้าหาตัวเพื่อตัดไม้

• ปุ่มล็อกใบเลื่อย – เมื่อหมุนคล้ายล็อกและดึงใบเลื่อยเข้ามาในระยะที่ต้องการแล้วกดปุ่มสีเขียวลงเพื่อล็อกใบเลื่อย

อธิบายตัวล็อกในภาพจาก ขวา ไป ซ้าย

• แกนหมุนเลื่อนความสูงใบเลื่อย

หมุนทางขวาหรือตามเข็มนาฬิกา – เพื่อปรับใบเลื่อยสูงขึ้น

หมุนทางซ้ายหรือทวนเข็มนาฬิกา – เพื่อปรับใบเลื่อยต่ำลง

• ตัวคลายล็อกเพื่อปรับองศาของเลื่อย
• แกนหมุนปรับองศา – เพื่อปรับองศาของบเลื่อย มีตั้งแต่ -2 ถึง 47 องศา

หมุนไปทางขวาหรือตามเข็มนาฬิกา – เพื่อปรับองศาของบเลื่อย ไปทาง 45

หมุนไปทางซ้ายหรือทวนเข็มนาฬิกา – เพื่อปรับองศาของบเลื่อย ไปทาง 0

• ปุ่มล็อกสีเขียว – เพื่อปรับองศา ให้ได้ถึง -2 และ 47 องศา

อธิบายตัวล็อกในภาพจากซ้าย ไป ขวา

• ตัวล็อกรั้ว -ล็อกรั้วประครองไม้ที่ขนานไปกับไม้
• ตัวหมุนล็อกฐานรั้ว – ล็อกฐานรั้วอีกที สามารถเลื่อน ซ้าย – ขวาได้
• ตัวล็อกองศา – ดึงขึ้นเพื่อคล้ายและเปลี่ยนหรือปล่อยลงเพื่อล็อกองศา
• ตัวล็อกปรับองศาโดยเลื่อนตามแนวตัวเลของศาที่ต้องการ แล้วล็อก
• ตัวล็อกรั้ว – ล็อกรั้วประครองไม้ให้มั่นคง ไม่ขยับและสะบัดเวลาตัดไม้
• รั้วสไลด์ – ตัวรั้วเป็นเหล็กที่มีระนาบเรียบสำปรับปรับครองไม้ สามารถเลื่อย ซ้าย – ขวาได้

วิธีเปลี่ยนใบเลื่อยวงเดือน

• หมุนตัวล็อกแผ่นปิดใบเลื่อยด้านล่าง

• ยกฝาครอบเหล็กที่ปิดใบเลื่อยขึ้น

• คลายตัวปิดใบเลื่อยออก

• ปรับใบเลื่อยขึ้นมาให้สูงสุด และปรับไปที่ 35 องศา เพื่อให้ขันใบเลื่อยออกได้

• กดปุ่มสีเขียว และขันใบเลื่อยออก

• ขันใบออก

ขันใบทวนข็มนาฬิกา – คลายใบเลื่อยออก

ขันใบตามเข็มนาฬิกา -คลายใบเลื่อยเข้าล็อก

การตัดไม้แบบริปบอร์ด

การตัดแบบริป หรือการตัดตรง การซอยไม้ คือการตัดแบบทั่วไปที่สุดที่คุณจะสามารถทำได้บนโต๊ะเลื่อยวงเดือน เป็นการตัดตามยาวที่มักใช้ในการตัดไม้เนื้อแข็ง ก่อนที่คุณจะเริ่มตัดในแบบอื่น ให้ปรับใบมีดให้สูงกว่าความหนาของไม้ประมาณ 0.2-0.3 mm วิธีนี้จะช่วยป้องกันการดีดกลับ ปรับความกว้างของรั้วที่ใช้ประครองไม้ และติดตั้งตัวป้องกันใบเลื่อย เปิดใบเลื่อยและเริ่มดันไม้กระดานผ่านเข้าไปโดยดันกระดานชนกับรั้วให้แน่นหนา เมื่อเริ่มตัด อย่าลืมเอานิ้วออกห่างจากใบมีด และวางโต๊ะรองรับไม้สำหรับการตัดไม้ที่ยาว

การตัดไม้แบบขวางและแบบมุม 45 องศา หรือมุมอื่นๆ

การตัดแบบขวาง และการตัดแบบมุม ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในงานเข้ามุมต่างๆ เช่น ตู้ไม้ , ประตู ,หน้าต่างและพื้นที่ ที่ต้องการตัดมุม โต๊ะเลื่อยจะช่วยให้คุณทำการตัดมุมได้เรียบสนิทและแม่นยำโดยใช้เครื่องวัดมุม ปรับใบมีดในลักษณะเดียวกับที่คุณทำการริป ขณะตัด ให้ยึดชิ้นงานของคุณกับรั้ว หรือส่วนที่ยึดไม้ได้ ให้แน่นด้วยแคลมป์ แล้วทำการตัด หากคุณต้องการตัดขวางชิ้นงานหนาๆ เช่น ขาโต๊ะหรือชิ้นส่วนที่หนา เคล็ดลับคือตัดครึ่งจากด้านหนึ่งแล้วพลิกด้านเพื่อตัดจากอีกด้านหนึ่งเป็นอันเสร็จสิ้น

บทสรุป

เมื่อคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว จะเห็นได้ว่าการใช้งานโต๊ะเลื่อยวงเดือนไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยใช่ไหม ส่วนสำคัญคือคุณต้องศึกษาคู่มือ วิธีการใช้งาน และคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้งานโต๊ะเลื่อยเป็นหลัก สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกโต๊ะเลื่อยคือการทำความเข้าใจว่าจะใช้ทำงานอะไรบ้าง ควรเลือกโต๊ะเลื่อยที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ เพื่อที่จะสามารถใช้งานโต๊ะเลื่อยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด